ระหว่าง 26 ตุลาคม 2558 - 01 พฤศจิกายน 2558
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 27-29 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ต.ค. - 1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ในระยะแรก อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สัปดาห์นี้เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศเปลี่ยนแปลง โดยอุณหภูมิจะลดลงจนมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับบางวันอาจมีฝนตกได้ เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดเตรียมวัสดุสำหรับเพิ่มความอบอุ่นให้แก่สัตว์เลี้ยง โดยมีการจัดการโรงเรือนหรือคอกเลี้ยงสัตว์ ให้สามารถป้องกันฝนและลมหนาว และควรให้วัคซีนสัตว์แต่ละชนิดให้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ด้วย
สภาพอากาศที่เย็นและชื้นเหมาะกับการเกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา และการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชผักสวนครัว เช่น ราน้ำค้าง และหนอนกระทู้ผัก ในพืชตระกูลกะหล่ำ และโรคใบจุด ใบด่าง และหนอนกินใบในพืชตระกูลแตง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 27-29 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ต.ค. - 1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ในระยะแรก อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา เซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
สัปดาห์นี้เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศจะเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะทางตอนบนของภาคจะมีอากาศเย็นในตอนเช้า เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รวมทั้งจัดทำแผงกันลมหนาว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะสัตว์เล็ก
ชาวนาในระยะนี้ควรระวังและป้องกัน การระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกระทู้คอรวง หนอนกอ และหนอนห่อใบข้าว เป็นต้น ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นข้าวเสียหาย ผลผลิตลดลง หากพบควรรีบกำจัด
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 27-29 ต.ค. มีเมฆบางส่วน กับหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ต.ค. - 1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ในระยะแรก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สัปดาห์นี้เป็นช่วงต้นฤดูหนาวอากาศจะเย็นในตอนเช้า โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย และควรหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มและรักษา เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ
สำหรับฝนที่ตกในระยะนี้ปริมาณและการกระจายไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติม และหมั่นกำจัดวัชพืชในบริเวณแปลงปลูกเพื่อไม่แย่งอาหารและน้ำจากต้นพืช
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 27-29 ต.ค. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ต.ค. - 1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ในระยะแรก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสตอนบนของภาคมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ระยะนี้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อน ทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
บริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ รวมทั้งวางแผนการใช้น้ำให้เหมาะสม เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในการเกษตรตลอดช่วงแล้ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 27-29 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ต.ค. - 1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายกับพื้นที่การเกษตร โดยจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณแปลงปลูก
สำหรับพื้นที่ ที่มีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนยางพารา และกาแฟ ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
นอกจากนี้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อน ทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
อนึ่งในช่วงวันที่ 30 ต.ค. – 1 พ.ย. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงขอให้ชาวเรือและชาวประมงเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74