ระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 - 15 พฤศจิกายน 2558
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 9-15 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันที่ 12-14 พ.ย. ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา และมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังปานกลาง ยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ตลอดช่วง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้จะยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ปริมาณฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ตลอดช่วง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 9 - 12 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 13 - 15 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9-12 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 13 - 15 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-13 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 10 - 13 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้า มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 15 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 9 - 12 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 13 - 15 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 10-12 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 13- 15 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74