ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 11 พฤศจิกายน 2558 - 17 พฤศจิกายน 2558
ภาคเหนือ
- ในช่วงวันที่ 13-17 พ.ย.อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- ระยะนี้ในตอนเช้าสภาพอากาศเย็นกับมีหมอกและน้ำค้างอาจทำให้โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราน้ำค้างแพร่ระบาดได้ง่าย ดั้งนั้นเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ ผัก และไม้ดอกชนิดต่างๆ ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคดังกล่าว โดยหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบกำจัด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ในช่วงวันที่ 14 - 17 พ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ เกษตรกรควรระวังและหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรทิ้งไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าวด้วย นอกจากนี้เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง
- ระยะนี้ในตอนเช้าอากาศเย็นกับมีหมอกและน้ำค้าง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่โดยเฉพาะข้าวโพดควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้าง โดยหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบกำจัด
ภาคกลาง
- ในช่วงวันที่ 11 – 13 พ.ย. มีฝนตกและมีอากาศเย็นในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคราน้ำค้างในกล้วยไม้ องุ่น และพืชตระกูลถั่ว ซึ่งจะทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตเสียหายได้
- ในช่วงนี้บางพื้นที่อุณหภูมิจะลดลงทำให้มีอากาศเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลสุขภาพสัตว์ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
- ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรที่ตากทิ้งไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าวด้วย
- สำหรับสวนผลไม้ที่อยู่ในช่วงแตกใบอ่อนและพืชผักต่างๆเกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินทำให้ยอดและใบอ่อนเสียหาย เกษตรกรจึงหมั่นสำรวจพื้นที่เพาะปลูก หากพบศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัด เพื่อป้องกันการระบาดเป็นบริเวณกว้าง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังผลกระทบจากสภาวะฝนตกหนัก เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
- สำหรับชาวสวนผลไม้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า ซึ่งมักระบาดในช่วงที่ดินมีความชื้นสูง
- ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือตลอดช่วง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- ระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังผลกระทบจากสภาวะฝนตกหนัก เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
- สำหรับชาวสวนผลไม้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า ซึ่งมักระบาดในช่วงที่ดินมีความชื้นสูง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74