ระหว่าง 16 พฤศจิกายน 2558 - 22 พฤศจิกายน 2558
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 16 - 20 พ.ย. มีฝนคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ระยะนี้ในตอนเช้ามีอากาศเย็นและยังคงมีความชื้น เกษตรกรที่ปลูกไม้ดอกและพืชผักชนิดต่างๆ ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะกัดกินทำให้ยอดและใบอ่อนเสียหายได้ เกษตรกรจึงควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบศัตรูพืชควรรีบกำจัด
- สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่หลังการทำนา ควรเลือกปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย รวมทั้งควรมีแหล่งน้ำเป็นของตนเองเพื่อป้องน้ำขาดแคลนในระยะเจริญเติบโต
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 16 - 20 พ.ย. มีฝนคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- เนื่องจากระยะนี้มีปริมาณน้ำระเหยมาก ดังนั้นเกษตรกรที่ปลูกพืช เช่น พืชไร่ และพืชผัก ควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมและคลุมโคนต้นพืชเพื่อลดอัตราการระเหยของน้ำจากดิน
- สำหรับเกษตรกรที่ต้องการตากผลผลิตทางการเกษตรในช่วงวันที่ 16-20 พ.ย. ควรระมัดระวังความเสียหายเนื่องจากฝนที่จะตกไว้ด้วย
- สำหรับเกษตรกรที่ต้องการจะปลูกพืชรอบใหม่หลังการทำนา ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย รวมทั้งควรมีแหล่งน้ำเป็นของตนเองเพื่อป้องน้ำขาดแคลนในระยะเจริญเติบโต
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สำหรับเกษตรกรที่ต้องการตากผลผลิตทางการเกษตรในระยะนี้ควรระมัดวังความเสียหายเนื่องจากฝนที่จะตกไว้ด้วย
- ระยะนี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติม โดยคำนึงถึงการประหยัดน้ำ
- สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่หลังการทำนา ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย รวมทั้งควรมีแหล่งน้ำเป็นของตนเองเพื่อป้องน้ำขาดแคลนในระยะเจริญเติบโต
ภาคตะวันออก
มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
- ระยะนี้ยังคงมีฝนตก เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรที่ตากทิ้งไว้กลางแจ้ง
- สำหรับไม้ผลและพืชผักต่างๆ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะ กัดกิน ทำให้ยอดและใบอ่อนเสียหาย เกษตรกรควรหมั่นสำรวจพื้นที่เพาะปลูก หากพบศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัด เพื่อป้องกันการระบาดเป็นบริเวณกว้าง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 16 - 17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 18 - 22 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 18 – 21 พ.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพื้นที่การเกษตร โดยจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณแปลงปลูก
- ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่อง ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้หน้ากรีดยางเสียหาย และผลผลิตลดลง
- ในช่วงวันที่ 18 – 21 พ.ย. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 18-22 พ.ย. มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 18 – 21 พ.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพื้นที่การเกษตร โดยจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณแปลงปลูก
- ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่อง ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้หน้ากรีดยางเสียหาย และผลผลิตลดลง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74