พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่างวันที่ 08 ธันวาคม 2558 - 14 ธันวาคม 2558

ข่าวทั่วไป Tuesday December 8, 2015 15:12 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 08 ธันวาคม 2558 - 14 ธันวาคม 2558

ภาคเหนือ

ตอนบนของภาค มีอากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค มีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 7-9 ธ.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ตนเอง และสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังจากจุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่น
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหารลงเนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำจะทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสียได้
  • สำหรับหมอกและน้ำค้างในระยะนี้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราน้ำค้างในพืชผัก ไม้ดอก และราดำในมะขามหวาน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 7-8 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้สภาพอากาศแห้งและมีแดดจัด ทำให้น้ำระเหยจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่ พืชผัก และไม้ผล ที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และรักษาความชื้นภายในดิน

*นอกจากนี้ควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตเสียหายได้

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 7-8 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้สภาพอากาศแห้ง ทำให้น้ำระเหยจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่ พืชผัก และไม้ดอก ที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตเสียหายได้
  • ส่วนเกษตรกรที่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเองควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักใว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 7-8 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ธ.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • สัปดาห์นี้สภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำและรักษาความชื้นในดิน รวมทั้งระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไร ชนิดต่างๆ ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เป็นต้น ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • ส่วนผู้ที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย อายุการเก็บเกี่ยวสั้น และวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 7-8 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 7 - 8 ธ.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพื้นที่การเกษตร โดยจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณแปลงปลูก
  • สำหรับชาวสวนไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาด ของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะกัดกิน ทำให้ยอดและใบอ่อนเสียหายได้ เช่น หนอนรังเจาะลำต้นในทุเรียน หนอนชอนใบในมังคุด และหนอนชอนเปลือกสำต้นในลองกอง เป็นต้น
  • ในช่วงวันที่ 7-8 ธ.ค. คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

  • สำหรับชาวสวนไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาด ของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะกัดกิน ทำให้ยอดและใบอ่อนเสียหายได้ เช่น หนอนรังเจาะลำต้นในทุเรียน หนอนชอนใบในมังคุด และหนอนชอนเปลือกสำต้นในลองกอง เป็นต้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ