ระหว่าง 25 ธันวาคม 2558 - 31 ธันวาคม 2558
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 25-26 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-31 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ระยะนี้อากาศจะหนาวเย็นโดยทั่วไป เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ตนเองอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
- ช่วงที่อุณหภูมิลดลง ปลาจะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย ส่งผลให้ออกซิเจนในน้ำลดลงทำให้ปลาอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย เกษตรกรควรลดปริมาณอาหารให้น้อยลง รวมทั้งเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจน และเป็นการปรับสภาพน้ำไม่ให้อุณหภูมิผิวน้ำและน้ำในระดับล่างแตกต่างกันมาก
*สำหรับลิ้นจี่ และลำไย ที่อยู่ในระยะพักตัวใกล้ออกดอก เกษตรกรควรงดให้น้ำรอจนเห็นตาดอกชัดเจนแล้วค่อยเริ่มให้น้ำ โดยเริ่มจากปริมาณน้อยๆแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น รวมทั้งระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยชนิดต่างๆ และมวนลำไย ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ส่งผลต่อการออกดอกของพืช
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในวันที่ 26-31 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
- ระยะนี้อากาศจะหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องกับมีลมแรง เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งระวังการเกิดอัคคีภัย โดยดับไฟให้สนิททุกครังหลังจากจุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่น
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนและทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็น จนอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย และไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งแจ้งตอนกลางคืน เพราะอาจทำให้สัตว์ที่ไม่แข็งแรงป่วยและตายได้
- สภาพอากาศที่แห้งและลมแรง ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก และหลีกเลี่ยงการจุดไฟในบริเวณสวน
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 25-26 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 27-31 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ระยะนี้มีอากาศเย็นในตอนเช้า เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ตนเอง และสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- ระยะนี้จะมีฝนตกน้อย สำหรับไม้ผลที่ออกดอกแล้ว เช่น มะม่วง ชาวสวนควรให้น้ำแก่พืช โดยเริ่มจากปริมาณน้อยๆแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ดอกร่วงหล่น การติดผลลดลง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 25-26 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-31 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
- ระยะนี้จะมีฝนตกน้อย สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืช โดยเริ่มจากปริมาณน้อยๆแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม การติดผลลดลง
- ในช่วงวันที่ 26-31 ธ.ค. คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 26-31 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- สำหรับบริเวณที่มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้อากาศมีความชุ่มชื้นเหมาะกับการเกิดระบาดศัตรูพืชจำพวกหนอนในไม้ผล และพืชผัก เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้ระบาดไปยังแปลงอื่นๆ
- ในช่วงวันที่ 26-31 ธ.ค. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2-3 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้ภาคใต้มีฝนลดลงโดยเฉพาะทางตะวันตกของภาค เกษตรกรที่ปลูก ไม้ผล และพืชผัก ควรให้น้ำเพิ่มเติมให้พอเพียงต่อความต้องการของพืชหากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ
- สำหรับบริเวณที่มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้อากาศมีความชุ่มชื้นเหมาะกับการเกิดระบาดศัตรูพืชจำพวกหนอนในไม้ผล และพืชผัก เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้ระบาดไปยังแปลงอื่นๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74