ระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559 - 25 กุมภาพันธ์ 2559
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 20-21 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีอากาศหนาวเย็น และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีฝนตกบริเวณภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 22 - 23 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป กับมีหมอกในตอนเช้าหลังจากนั้นในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีอากาศหนาวเย็น และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีฝนตกบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป
มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตลอดช่วง
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 21 - 22 และ 24-25 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย ตลอดช่วง
ภาคเหนือ วันที่ 20-22 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม
ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 และ 24-25 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 12-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 22-25 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยกับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้
ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 22-25 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยกับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง1- 2 เมตร
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในวันที่ 19-21 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 22-25 ก.พ. มีเมฆบางส่วน โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยกับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74