ระหว่างวันที่ 10 มีนาคม 2559 - 16 มีนาคม 2559
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 10-12 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 10-12 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ไว้ด้วย
ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน ตลอดช่วง
ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาค มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 10-12 มี.ค. อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ในระยะแรก กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 มี.ค. เมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีเมฆเป็นส่วนมาก
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 มี.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีเมฆเป็นส่วนมาก
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 13-16 มี.ค. อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 10-11 มี.ค. มีเมฆบางส่วน
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงมาทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีเมฆเป็นส่วนมาก
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 มี.ค. อากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74