ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 15 มิถุนายน 2559 - 21 มิถุนายน 2559
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-17 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
- ลิ้นจี่ (เก็บเกี่ยวแล้ว) ตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ย - สตอเบอรี (ระยะกล้า) บำรุงต้น ใส่ปุ๋ย - ตระกูลกะหล่ำ โรคเน่าดำ หนอนใยผัก - ถั่วเหลือง-ถั่วเขียว หนอนกระทู้ หนอนชอนใบ - พืชตระกูลแตง โรคใบจุด หนอนกินใบ - ลำไย (ผลเจริญเติบโต) หนอนเจาะขั้วผล แมลงค่อมทอง มวนลำไย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
- ข้าวนาปี (ระยะกล้า) หนอนกระทู้กล้า - มันสำปะหลัง โรคหัวเน่า โคนเน่า - ดาวเรือง หนอนชอนใบ หนอนกระทู้ - ตระกูลพริก – มะเขือ โรคใบจุด หนอนเจาะผล
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
- มะนาว โรคแคงเกอร์ - ส้มโอ ไรสนิม ไรขาว หนอนเจาะผล - ดาวเรือง หนอนชอนใบ หนอนกระทู้ - กล้วยไม้ โรคราสนิม โรคยอดเน่า - มะม่วง ราแป้ง ใบจุด เพลี้ยจักจั่น
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 15–18 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
- สับปะรด โรคยอดเน่า,โรคต้นเน่า - แก้วมังกร โรคกิ่งและผลเน่าใน - พริกไทย โรครากเน่า - สละ โรคผลเน่า โรคใบจุด
- เงาะ (เก็บเกี่ยวผลผลิต) หนอนเจาะขั้วผล โรคผลเน่า
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 15–18 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
- ทุเรียน (ผลเจริญ เติบโต) ให้น้ำอย่างเพียงพอ ตัดแต่งช่อดอกและผลอ่อน หนอนเจาะผล
- เงาะ (ผลเจริญเติบโต) โรคราแป้ง หนอนเจาะขั้วผล
- ลองกอง หนอนเจาะกินใต้ผิวเปลือก - ยางพารา โรครากขาว โรคราสีชมพู โรคเส้นดำ - กาแฟ โรคราสนิม - ปาล์มน้ำมัน หนอนหน้าแมว ด้วงแรด ด้วงกุหลาบ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- ทุเรียน (ผลเจริญ เติบโต) ให้น้ำอย่างเพียงพอ ตัดแต่งช่อดอกและผลอ่อน หนอนเจาะผล
- เงาะ (ผลเจริญเติบโต) โรคราแป้ง หนอนเจาะขั้วผล
- ลองกอง หนอนเจาะกินใต้ผิวเปลือก - ยางพารา โรครากขาว โรคราสีชมพู โรคเส้นดำ - กาแฟ โรคราสนิม - ปาล์มน้ำมัน หนอนหน้าแมว ด้วงแรด ด้วงกุหลาบ
หมายเหตุhttp://www.arcims.tmd.go.th/dailydata/PET7day.php
ปริมาณฝนสะสมเดือนมิถุนายน (1 – 14 มิ.ย.) ฝนที่ตกสะสมในระยะนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ เว้นแต่บริเวณภาคเหนือตอนล่าง และด้านตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและด้านตะวันตก ภาคกลางตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ยังคงมีฝนตกน้อย
ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีฝนตกในหลายพื้นที่โดยจะมีฝนสะสมมากกว่า 40 มม. บริเวณภาคเหนือด้านตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก และภาคใต้ตอนล่าง
ศักย์การคายระเหยน้ำ : ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาบริเวณภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสมสูงกว่าบริเวณอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียน้ำจากดินและพืชมากกว่าบริเวณอื่น
สมดุลน้ำ : ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีฝนตกในหลายพื้นที่ ค่าสมดุลน้ำอยู่ในช่วง (-40) ถึง (150) โดยสมดุลน้ำเป็นบวกอยู่ที่บริเวณด้านตะวันตกของบริเวณประเทศไทยตอนบน ภาคเหนือตอนบนด้านตะวันออก ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ตอนล่าง
คำแนะนำ : ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาหลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกโดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนล่าง ส่วนในช่วง 7 วันข้างหน้าแม้จะมีโอกาสเกิดฝนตกแต่ในบางพื้นที่ปริมาณยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืชโดยเฉพาะบริเวณภาคกลางและภาคใต้ตอนบน เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม รวมทั้งกำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นพืช โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะ ออกดอก และเจริญเติบโตทางผล หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ การติดผลลดลง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74