ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 21 พฤศจิกายน 2559 - 27 พฤศจิกายน 2559
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-23 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ผลผลิตทางการเกษตร ระยะนี้มีแดดจัดเหมาะกับการตากผลผลิตเพื่อลดความชื้น แต่ไม่ควรตากผลผลิตไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย เนื่องจากหมอก และน้ำค้าง ส่วนในช่วงวันที่ 24 – 27 พ.ย. จะมีฝนเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงตากผลผลิตในช่วงดังกล่าว
พื้นที่การเกษตร วันที่ 24 -27 พ.ย. จะมีฝนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-23 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 22-23 พ.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ผลผลิตทางการเกษตร ในช่วงวันที่ 21 – 23 พ.ย. จะมีฝนตกร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวแล้ว เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าว เพื่อป้องกันผลผลิตเปียกชื้นเสียหาย
พื้นที่การเกษตร ในช่วง วันที่ 21 – 23 พ.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางด้านเกษตร และใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
สัตว์เลี้ยง ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 21-24 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 23-24 พ.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 25-27 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
พื้นที่การเกษตร ในช่วง วันที่ 21 – 24 พ.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางด้านการเกษตร และใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
สัตว์เลี้ยง ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 21-24 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 22-23 พ.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ในช่วงวันที่ 25-27 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
พื้นที่การเกษตร ในช่วงวันที่ 21-24 พ.ย. จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนหนักบางแห่ง เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ไม้ผล ระยะนี้มีฝนตก ซึ่งจะทำให้อากาศและดินมีความชื้นเพิ่มขึ้น ชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าและโคนเน่า ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 23-24 พ.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝน ฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
พื้นที่การ เกษตร บริเวณทางฝั่งตะวันออกของภาคจะมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
สัตว์เลี้ยง ฝนตกต่อเนื่องทำให้สภาพอากาศมีความชื้น เกษตรกรควรป้องกันการเจ็บป่วยของสัตว์ เช่น โรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ และโรคหวัดในสัตว์ปีก รวมทั้งควรหมั่นสังเกต หากพบสัตว์ป่วยควรแยกออกจากกลุ่ม และรีบรักษา
กาแฟ สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสนิม โรครากขาว และโรคแอนแทรกโนส เป็นต้น โดยดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
พื้นที่การ เกษตร บริเวณทางฝั่งตะวันออกของภาคจะมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
สัตว์เลี้ยง ฝนตกต่อเนื่องทำให้สภาพอากาศมีความชื้น เกษตรกรควรป้องกันการเจ็บป่วยของสัตว์ เช่น โรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ และโรคหวัดในสัตว์ปีก รวมทั้งควรหมั่นสังเกต หากพบสัตว์ป่วยควรแยกออกจากกลุ่ม และรีบรักษา
กาแฟ สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสนิม โรครากขาว และโรคแอนแทรกโนส เป็นต้น โดยดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวน
หมายเหตุ สำหรับแผนที่แสดงสมดุลน้ำสามารถดาวโหลดได้ตามลิงค์นี้ http://www.arcims.tmd.go.th/dailydata/PET7day.php
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74