พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 2 มีนาคม 2560 - 8 มีนาคม 2560
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 2 – 3 มี.ค. 60 บริเวณประเทศไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับภาคใต้มีฝนตกได้ ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-8 มี.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ส่วนภาคใต้ คลื่นลมจะมีกำลังอ่อนลง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 2- 3 มี.ค. 60 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
ในช่วงวันที่ 4- 8 มี.ค. ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 มี.ค.
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงวันที่ 2- 3 มี.ค. 60 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกได้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง
ในช่วงวันที่ 4 - 8 มี.ค.บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไปกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยก็เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่คลื่นบริเวณอ่าวไทยตอนล่างยังคงมีกำลังแรง
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 4- 8 มี.ค.จะมีกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องในตอนเช้า
ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า เกือบตลอดช่วง
โดยทางตอนบนของภาค อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม. /ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 2- 3 มี.ค. 60 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ในช่วงวันที่ 4-8 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคกลาง ในวันที่ 2 -3 มี.ค.60 มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 4– 8 มี.ค. 60 อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออก ในวันที่ 2 -3 มี.ค. 60 มีเมฆเป็นส่วนมาก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ในช่วงวันที่ 4- 8 มี.ค. 60 มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นโดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 2 -4 มี.ค. 60 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ในช่วงวันที่ 5-8 มี.ค. 60 มีเมฆบางส่วน
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 2 – 4 มี.ค. 60 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ในช่วงวันที่ 5-8 มี.ค. 60 มีเมฆบางส่วน ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 2 – 3 มี.ค. 60 มีเมฆบางส่วน
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 8 มี.ค. 60 มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74