พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 12 เมษายน 2560 - 18 เมษายน 2560
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 12 - 15 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 เม.ย. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง มีฝนลดลง แต่ภาคเหนือ และด้านตะวันตกของภาคกลางยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 12 - 14 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกได้ในระยะนี้ ในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย.บริเวณความกดอากาศสูงมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 17-18 เม.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้นและจะเคลื่อนไปทางเหนือปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ด้านตะวันตกของประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 12 - 15 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระวังอันตรายจากที่เกิดจากพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า และลมกระโชกแรง โดยควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย
ในช่วงวันที่ 15-18 เม.ย. ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 12-15 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งและลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตะวันตกของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งและลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15-18 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันตกและตอนบนของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 12-15 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ส่วนในวันที่ 16-18 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันตกของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
ส่วนในวันที่ 15-18 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 12-15 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 16-18 เม.ย.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ในช่วงวันที่ 15-18 เม.ย. ตั้งแต่จ.ภูเก็ตขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 13-15 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74