ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 10 พฤษภาคม 2560 - 16 พฤษภาคม 2560
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 10-12 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
- พื้นที่การเกษตร เนื่องจากระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง โดยเฉพาะด้านตะวันออกของภาค เกษตรกรควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และควรซ่อมแซมโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรง ส่วนผลผลิตพืชไร่ที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยวและลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ
- พืชไร่ ระยะนี้จะมีฝนตกต่อเนื่อง โดยในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์จะมีฝนมากกว่าในระยะครึ่งแรก สำหรับพืชไร่ที่อยู่ในระยะแก่ถึงเก็บเกี่ยว เกษตรกรควรเลือกเก็บเกี่ยวในช่วงที่มีฝนตกน้อยหรือช่วงก่อนที่จะมีฝนตก รวมทั้งควรลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บและไม่ควรกองรวมกันไว้หนาแน่นมาก เพื่อป้องกันผลผลิตเน่าเสีย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค. มีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
- พื้นที่การเกษตร เนื่องจากระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และควรซ่อมแซมโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรง ส่วนผลผลิตพืชไร่ที่แก่ดีและควรรีบเก็บเกี่ยวและลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ
- ข้าวนาปีระยะนี้จะมีฝนตกแต่ปริมาณและการกระจายยังไม่เพียงพอสำหรับการเริ่มต้นเพาะปลูกข้าวนาปี ดังนั้นเกษตรกรที่ต้องการปลูกควรวางแผนการปลูกข้าวนาปี โดยควรรอให้มีฝนตกมากขึ้นและมีความสม่ำเสมอมากกว่านี้เพื่อป้องกันความเสียหายเนื่องจากปริมาณฝนไม่พียงพอในระยะต่อไป
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 10-11 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส
- พื้นที่การเกษตรเนื่องจากระยะนี้จะมีฝนตกตลอดช่วง เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตการเกษตร รวมทั้งควรซ่อมแซมโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรง ส่วนผลผลิตพืชไร่ที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยวและลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ
- สัตว์เลี้ยงระยะนี้มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส และมีฝนตกในบางวัน ซึ่งจะทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง อาจทำให้อากาศอบอ้าว สัตว์เลี้ยงเบื่ออาหารและหงุดหงิดได้ โดยเฉพาะสัตว์ที่เลี้ยงไว้ในโรงเรือนที่ไม่ถูกสุขลักษณะ มีจำนวนสัตว์เลี้ยงหนาแน่น และอากาศไม่ถ่ายเท ดังนั้นผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตและปริมาณของสัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงเครียด อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีลมกระโชกแรง ในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
- พื้นที่การเกษตรเนื่องจากระยะนี้จะมีฝนตกตลอดช่วงกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และควรซ่อมแซมโรงเก็บผลผลิต สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่ เกษตรกรควรระวังความเสียหายเนื่องจากฝนที่จะตกในระยะนี้ไม่ควรปล่อยให้ผลที่ร่วงหล่นและเน่าเสียกองอยู่ในบริเวณสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช
- ไม้ผลระยะนี้จะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่ ใกล้เก็บเกี่ยว ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคผลเน่าในทุเรียน ลองกอง และฝรั่ง เป็นต้น
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
- พื้นที่การเกษตรเนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก ขุดลอกคูคลอง เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูก
- ยางพาราระยะนี้จะมีฝนตกตลอดช่วงกับมีฝนตกหนักบางแห่งทางฝั่งตะวันออกของภาค สำหรับผู้ที่ปลูกยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค.ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
- พื้นที่การเกษตรเนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก ขุดลอกคูคลอง เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูก
- ยางพาราระยะนี้จะมีฝนตกตลอดช่วงกับมีฝนตกหนักบางแห่งทางฝั่งตะวันออกของภาค สำหรับผู้ที่ปลูกยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74