พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 - 18 พฤษภาคม 2560
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 12-13 พ.ค. ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคใต้และภาคตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองอย่างต่อเนื่อง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 12-13 พ.ค. ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งเกิดขึ้นในระยะนี้ ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ภาคเหนือ ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 12-13 พ.ค.ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม. /ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 15-18 พ.ค.
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 12-13 พ.ค.ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 12-13 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 12-13 พ.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 12-13 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 15-18 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 12-13 พ.ค.ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 12-13 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74