ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 15 พฤษภาคม 2560 - 21 พฤษภาคม 2560
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 15-18 พ.ค.อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
- ไม้ผล เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝน ปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้น สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผลและผลแก่ โดยเฉพาะลำไยและลิ้นจี่ เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นกองอยู่ภายในบริเวณสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่ดินและอากาศมีความชื้นสูง
- สัตว์น้ำ สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง ไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหลังฝนตกใหม่ควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้น และเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
- พื้นที่การเกษตร เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝน ความชื้นในดินและในอากาศจะเพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรชุบท่อนพันธุ์หรือคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อรา และดูแลระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ
- สัตว์เลี้ยง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ในระยะนี้ ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบ เช่น โคและกระบือ เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นโรคปากและเท้าเปื่อยได้
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16-18 พ.ค.อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
- พื้นที่การเกษตร สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรที่จัดเตรียมพื้นที่สำหรับปลูกพืชในระยะนี้ ควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่เพาะปลูกเป็นเวลานานทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้
- สัตว์เลี้ยง เกษตรกรควรดูแลโรงเรือนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก หลังคาไม่มีรอยรั่วซึม ป้องกันสัตว์เปียกชื้น พื้นคอกไม่ชื้นแฉะ จนทำให้สัตว์หนาวเย็นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และควรหมั่นสังเกตสัตว์เลี้ยงหากพบสัตว์ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มแล้วรักษา เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
- ไม้ผล สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เช่น เงาะ และทุเรียน เป็นต้น เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ผลที่ร่วงหล่นเน่าเสียกองอยู่ในบริเวณสวนแต่ควรนำไปเผาหรือผังให้ลึก เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งอาจลุกลามจากเปลือกและผลที่เน่าเสียมาสู่ต้นพืชได้
- พริกไทย เนื่องจากระยะระยะต่อไปจะเป็นช่วงฤดูฝนปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้น เกษตรกรที่ปลูกพริกไทย ควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งอาจทำให้พริกไทยเป็นโรครากเน่าได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
- พื้นที่การเกษตร เนื่องจากระยะต่อไปจะเข้าสู่ฤดูฝน บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมตะวันตกเฉียงใต้จะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก กับมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- กาแฟ สำหรับ เกษตรกรที่ปลูกกาแฟในระยะนี้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเก็บกวาดกิ่งและใบที่ร่วงหล่นกองอยู่บนพื้นไปกำจัด เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 15-19 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ในช่วงวันที่ 20-21 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
- พื้นที่การเกษตร เนื่องจากระยะต่อไปจะเข้าสู่ฤดูฝน บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมตะวันตกเฉียงใต้จะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก กับมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- กาแฟ สำหรับ เกษตรกรที่ปลูกกาแฟในระยะนี้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเก็บกวาดกิ่งและใบที่ร่วงหล่นกองอยู่บนพื้นไปกำจัด เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
- ประมงชายฝั่ง ในช่วงวันที่ 15
- 19 พ.ค. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง2
- 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74