พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 - 15 กุมภาพันธ์ 2561

ข่าวทั่วไป Friday February 9, 2018 13:25 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 - 15 กุมภาพันธ์ 2561

การคาดหมาย

ในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา

ในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ทำให้ประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส โดยยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว

อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-9 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 12-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 1-7 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. หมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว

อุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส และมีฝนเล็กน้อยบางแห่งในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ.

อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส และมีฝนเล็กน้อยบางแห่งในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ.

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

โดยในช่วงวันที่ 12-15 ก.พ. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

ออกประกาศ 9 กุมภาพันธ์ 2561

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ