พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 - 25 กุมภาพันธ์ 2561
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 19-20 ก.พ. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น แต่บริเวณภาคเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 21-23 ก.พ. บริเวณประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียสโดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศเย็นในตอนเช้า
ข้อควรระวัง
จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงวันที่ 19-20 ก.พ. กระแสลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 21-25 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังปานกลาง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. ทางตอนบนของภาค: อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-23 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาค: มีอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-13 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมกระโชกแรง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
และในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 16 -22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 19-20 ก.พ. มีอากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 21-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
และในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. จะมีอากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
และในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมกระโชกแรง
และในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง และในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 20-21 และ 24-25 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
และในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ออกประกาศ 19 กุมภาพันธ์ 2561
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74