พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 - 1 มีนาคม 2561
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. ประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีลูกเห็บตกบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคกลาง สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 25 ก.พ. – 1 มี.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นทำให้มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนเกิดขึ้นได้บางแห่งบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำหรับบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีหมอกในตอนเช้า
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังปานกลาง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 25 ก.พ. – 1 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้มีฝนเกิดขึ้นได้บางแห่ง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมกระโชกแรง โดยมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 25 ก.พ. – 1 มี.ค. อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 17 -24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 25 ก.พ. – 1 มี.ค. จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 25 ก.พ. – 1 มี.ค. จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 25 ก.พ. – 1 มี.ค. จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 25 ก.พ. – 1 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 25 ก.พ. – 1 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 25 ก.พ. – 1 มี.ค. จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ออกประกาศ 23 กุมภาพันธ์ 2561
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74