พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 - 4 มีนาคม 2561
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำหรับบริเวณภาคใต้มีฝนบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1– 4 มี.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณภูมิสูงขึ้น และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. บริเวณภาคตะวันเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน และในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย และชาวเกษตรกรในบริเวณดังกล่าวขอให้ระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตร
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกได้เคลื่อนผ่านเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ และประเทศลาว ประกอบกับมีมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่เกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ส่วนในช่วงวันที่ 1– 4 มี.ค. บริเวณความกดอากาศต่ำเนื่องความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อน ในขณะที่ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า กับอากาศร้อนในบางพื้นที่
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 15 -24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 1– 4 มี.ค. มีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้ากับอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 17-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 2 มี.ค. มีอุณหภูมิสูงขึ้นกับอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 3– 4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 1– 4 มี.ค. จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 2 มี.ค. มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 3– 4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 1– 4 มี.ค. จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ออกประกาศ 26 กุมภาพันธ์ 2561
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74