พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 2 มีนาคม 2561 - 8 มีนาคม 2561
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 2– 6 มี.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพและปริมณฑล ส่วนในช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง กระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง สำหรับเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 2– 6 มี.ค. บริเวณความกดอากาศต่ำเนื่องความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น สำหรับภาคใต้ ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 2–7 มี.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค
หลังจากนั้น จะมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก บางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 16-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 2-6 มี.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 2–7 มี.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งทางตอนล่างของภาค
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
หลังจากนั้น จะมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 2–6 มี.ค. อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก บางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 2–6 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 2–6 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 2–6 มี.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ออกประกาศ 2 มีนาคม 2561
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74