พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 9 มีนาคม 2561 - 15 มีนาคม 2561
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 10-11 มี.ค.ประเทศไทยตอนบนมีฝนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณภาคใต้มีกำลังปานกลางโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค.ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ ส่วนภาคใต้มีฝนลดลงและคลื่นลมมีกำลังอ่อนลง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 9-11 มี.ค. ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงวันที่ 10-11 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณภาคใต้มีกำลังปานกลาง ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค.บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีอากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 10-12 มี.ค. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 13-15 มี.ค. มีเมฆบางส่วน กับมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีอากาศร้อน
อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 10-11 มี.ค. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีอากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ส่วนในช่วงวันที่ 10-11 มี.ค. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
และในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีอากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 10-11 มี.ค. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีอากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 9-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค
ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 9-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในวันที่ 12-15 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 10-11 มี.ค. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีอากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ออกประกาศ 9 มีนาคม 2561
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74