พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม 2561 - 28 มีนาคม 2561
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค.ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ หลังจากนั้นในวันที่ 24-28 มี.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะฝนลดลง และมีอุณหภูมิสูงขึ้น
สำหรับภาคใต้ ในช่วงวันที่ 22-24 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร โดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง หลังจากนั้นในวันที่ 25-26 มี.ค. มีฝนลดลง และคลื่นลมมีกำลังอ่อนลง ในช่วงวันที่ 22-24 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นบริเวณประเทศไทยตอนบน
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายและหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง และฟ้าผ่า ในขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ ในช่วงวันที่ 22-24 มี.ค. ขอให้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก และคลื่นลมในบริเวณอ่าวไทยที่มีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือเดินด้วยความระมัดระวัง ในช่วงเวลาดังกล่วไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 24-28 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพื้นที่ฝนฟ้าคะนองลดลง และมีอุณหภูมิสูงขึ้น สำหรับภาคใต้ ในช่วงวันที่ 22-24 มี.ค. ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หลังจากนั้นในวันที่ 25-26 มี.ค. ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง และคลื่นลมมีกำลังอ่อนลงในช่วงวันที่ 27-28 มี.ค. ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 24-28 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 17-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 22 มี.ค.มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23-28 มี.ค.อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 24-28 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในวันที่ 22 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 23-28 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 22-24 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
กับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป
ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ในช่วงวันที่ 25-28 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ส่วนในวันที่ 22-24 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงบางพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ในช่วงวันที่ 25-28 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 24-28 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ออกประกาศ 22 มีนาคม 2561
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74