พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 25 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ข่าวทั่วไป Monday June 25, 2018 14:44 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ออกประกาศวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2561

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 76/61

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 25-28 มิ.ย. บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.- 1 ก.ค. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีปริมาณฝนลดลง ส่วนภาคใต้ยังคงฝนตก

คำเตือน ในช่วงวันที่ 25-28 มิ.ย.บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วงส่วนในช่วงวันที่ 25-27 มิ.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่งลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล และเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น ลำไยและลิ้นจี่ เป็นต้น เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้เปลือกและผลที่ร่วงหล่นและเน่าเสียกองอยู่ภายในบริเวณสวนแต่ควรนำไปกำจัดให้ถูกวิธีโดยเผาหรือฝังให้ลึกเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช
  • ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในพืชไร่ ไม้ผล ไม้ดอก และพืชผักต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 25-27 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่28 มิ.ย.- 1 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวก หนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่าง ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำ ให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพได้
  • เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งหมั่นสังเกตหากพบตัวที่ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มและทำการรักษา เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วงลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • พื้นที่ซึ่งมีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร เนื่องจากระยะต้นเดือนหน้าปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง หรืออาจเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงได้
  • ระยะนี้ฝนตกไม่สม่ำเสมอ สภาพอากาศเหมาะแก่การระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล ไม้ดอกและพืชผักต่างๆ เกษตรกรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชดังกล่าว ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นพืชเสียหาย

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 25-28 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.- 1 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด31-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เช่น เงาะ ทุเรียน และลองกอง เกษตรกรควรรีบตัดแต่งกิ่งและขั้วผล เพื่อให้ต้นฟื้นตัวได้เร็ว มีเวลาพักตัวได้นานขึ้น แต่ควรทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อราไว้ด้วย
  • ในช่วงที่มีฝนตกทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของ โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยดูแลสภาพพื้นที่เพาะปลูกให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องได้ทั่วถึง เพื่อลดความชื้นสะสมภายในแปลงปลูกป้องกันโรคดังกล่าว

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 26-27 มิ.ย.มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 25-26 มิ.ย.และ 30 มิ.ย.- 1ก.ค.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-29มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด29-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้เป็นช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุมดังกล่าวจะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าทางด้านตะวันออก กับอาจมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกัน โดยเฉพาะทางภาคใต้ฝั่งตะวันตก ทำ ให้ดินและสภาพอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบยางร่วงลูกยางเน่า โรคหน้ากรีดยาง โรคราสีชมพู ในยางพารา และโรคราสนิมในกาแฟเป็นต้น
  • ส่วนทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนในช่วงบ่ายค่ำ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเป็นผลดีแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตและไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล แต่ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนที่จะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต
รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำใน 7 วันที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในช่วงวันที่ 25 มิ.ย. – 1 ก.ค. 2561

ปริมาณฝนสะสมเดือนมิถุนายน (ในช่วงวันที่ 1-24 มิ.ย.) ประเทศไทยส่วนใหญ่มีปริมาณฝนสะสม 50-300 มม. เว้นแต่บริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบนและตอนล่างของภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ที่มีปริมาณฝนสะสม 300-600 มม.

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 1-100 มม. เว้นแต่บริเวณภาคเหนือตอนบน และทางตอนบนของภาคใต้ฝั่งตะวันตก ที่มีปริมาณฝนสะสม 100-200 มม.

ศักย์การคายระเหยน้ำสะสม ประเทศไทยส่วนมากมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสม 20-40 มม.

สมดุลน้ำสะสม บริเวณประเทศไทยตอนบนส่วนใหญ่มีค่าสมดุลน้ำสะสมเป็นลบ คือ (-1) – (-40) มม. เว้นแต่ทางตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกตอนล่างที่มีค่าสมดุลน้ำสะสมเป็นบวก คือ 1-150 มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำสะสมเป็นบวก คือ 1 – 150 มม. เว้นแต่ทางตอนบนของภาคที่มีค่าสมดุลน้ำสะสมเป็นลบ คือ(-1) – (-30)

คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายงานฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากบางแห่ง สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝน กับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวนอกจากนี้ควรระวังการระบาดของศัตรูพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล ไม้ดอก และพืชผัก ซึ่งจะทำให้ต้นพืช ชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ