พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 26 กันยายน – 2 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวทั่วไป Wednesday September 26, 2018 14:55 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 2 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ออกประกาศวันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 116/61

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ย. 61 บริเวณประเทศไทยจะมีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. 61 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงกับมีฝนตกหนักบางแห่งเกิดขึ้นได้ ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “จ่ามี” (TRAMI) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไต้หวันในช่วงวันที่ 28-29 กันยายน 2561 หลังจากนั้นจะเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนเข้าประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 30 กันยายน 2561 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ย. 61 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. 61 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนาม ประเทศลาว ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

คำเตือน ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 1 ต.ค. 61 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย เนื่องจากระยะต่อไปฝนจะลดลง
  • ในบางพื้นที่ที่ฝนตกไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่และพืชสวน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28 -30 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรง และในช่วงวันที่ 1-2 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 28 - 30 ก.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับในบางพื้นที่ที่น้ำลดระดับลงแล้วควรรีบระบายน้ำออกจากแปลงปลูกแล้วพื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม รวมทั้งควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย เนื่องจากระยะต่อไปฝนจะลดลง
  • ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยมีฝนตกสลับกับมีอากาศร้อนในบางวัน เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย เนื่องจากระยะต่อไปฝนจะลดลง
  • ระยะนี้ฝนตกสลับกับมีอากาศร้อนในบางวันจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและติดโรคระบาดได้ง่าย เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรหมั่นสังเกตสัตว์ที่เลี้ยง หากพบสัตว์ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มแล้วทำการรักษา เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 26-28 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 29 ก.ย.– 2 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 29 ก.ย. – 2 ต.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรดูแลระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
  • ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชไร่ เช่น โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล โรคหน้ากรีดยาง เป็นต้น

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 26-29 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ย.– 2 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 26-29 ก.ย. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 2 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-33 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชไร่ เช่นโรคราสนิมในกาแฟ โรคราสีชมพู และโรคหน้ากรีดยางในยางพารา เป็นต้น
  • เกษตรกรไม่ควรปล่อยผลไม้หรือเศษซากของพืชร่วงหล่นและกองสุมอยู่ในบริเวณสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช ซึ่งจะนำความเสียหายมาสู่ต้นพืชได้
  • สำหรับบริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำใน 7 วันที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในช่วงวันที่ 26 ก.ย. – 2 ต.ค. 2561

ปริมาณฝนสะสมเดือนกันยายน (ช่วงวันที่ 1-25 ก.ย.) ประเทศไทยมีปริมาณฝนสะสม 100-200 มม. เป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ที่มีปริมาณฝนสะสม 200-800 มม.

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา (ช่วงวันที่ 19-25 ก.ย. ) ประเทศไทยส่วนใหญ่มีปริมาณฝนสะสม 5-100 มม.

ศักย์การคายระเหยน้ำสะสม ประเทศไทยมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสม 20-35 มม.

สมดุลน้ำสะสม ประเทศไทยส่วนใหญ่มีค่าสมดุลน้ำสะสมเป็นลบ คือ (-1) – (-30) มม. เว้นแต่บริเวณที่ฝนตกชุกในช่วงที่ผ่านซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนกลาง ที่มีค่าสมดุลน้ำสะสมเป็นบวก คือ 1–70 มม.

คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายงานฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากบางแห่ง สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. 61 กับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว เกษตรกรในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือควรกักเก็บน้ำใว้ใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย เนื่องจากในระยะต่อไปฝนจะลดลง นอกจากนี้เกษตรกรควรระวังระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของต้นพืช ทำให้ต้นพืชเสียหายได้ สำหรับภาคใต้เกษตรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่ เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชไร่ ซึ่งจะทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ