พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 3 - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวทั่วไป Wednesday October 3, 2018 15:45 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 3 - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ออกประกาศวันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 119/61

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 3-7 ต.ค. ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออกยังคงมีฝนฟ้าคะนอง สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา กับมีลมแรง สำหรับภาคใต้มียังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 3-7 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรง ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริม เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา กับมีลมแรงสำหรับภาคใต้มีลมตะวันออกพัดเข้ามาปกคลุม จึงทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง

คำเตือน ในช่วงนี้บริเวณภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 3-7 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โดยอุณหภูมิจะเริ่มลดลงเกษตรกรควรดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ในบางพื้นที่ที่ฝนตกไม่สม่ำ เสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่และพืชสวน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ
  • ในช่วงที่มีฝนตกเกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 3-7 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค และทางตอนบนของภาค อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา และมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรงอุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงนี้อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง ฝนตกไม่สม่ำ เสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่และพืชสวน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ
  • ในช่วงที่มีฝนตกเกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 3-7 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 4-6 ต.ค.ส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่และพืชสวน
  • ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะสัตว์เลี้ยงอาจปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 3-7 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 4-5 ต.ค.ส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 4-5 ต.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
  • ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชไร่ เช่น โรครากเน่าโคนเน่า

ในไม้ผล โรคหน้ากรีดยาง เป็นต้น

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 5-6 ต.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-33 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วงเกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชไร่ เช่นโรคราสนิมในกาแฟ โรคราสีชมพู และโรคหน้ากรีดยางในยางพารา เป็นต้น นอกจากนี้เกษตรกรควรดูแลพื้นที่เพาะปลูกให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในช่วงวันที่ 3-9 ต.ค. 2561

ปริมาณฝนสะสมเดือนตุลาคม (ช่วงวันที่ 1-2 ต.ค.) ประเทศไทยส่วนใหญ่มีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 100 มม. เว้นแต่บางพื้นที่ในภาคเหนือที่มีปริมาณฝนสะสม 100-150 มม.

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา (ช่วงวันที่ 26 ก.ย. - 2 ต.ค.) ประเทศไทยมีปริมาณฝนสะสม 0-100 มม. เป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่บางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออก ที่มีปริมาณฝนสะสม 100-150 มม.

ศักย์การคายระเหยน้ำสะสม ประเทศไทยมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสม 20-35 มม.

สมดุลน้ำสะสม ประเทศไทยส่วนใหญ่มีค่าสมดุลน้ำสะสมเป็นบวก คือ 1-150 มม. ส่วนบริเวณที่มีค่าสมดุลน้ำสะสมเป็นลบคือ (-1) - (-40) มม. ส่วนมากได้แก่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน และทางตอนบนกับตอนล่างของภาคใต้

คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายงานฝนตกหนักหลายพื้นที่ และหนักมากบางแห่ง สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง เกษตรกรควรกักเก็บน้ำใว้ใช้ในช่วงที่มีฝนน้อย เนื่องจากในระยะนี้เป็นช่วงปลายของฤดูฝน นอกจากนี้เกษตรกรควระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ผลผลิตเสียหายได้ สำหรับภาคใต้จะยังคงมีฝนตกชุกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยดูแลระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก และเกษตกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ