ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 07 มกราคม 2551 - 13 มกราคม 2551
ภาคเหนือ
มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อากาศหนาวทางตอนบนของภาค ส่วน ทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวังขณะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา สำหรับมะม่วงที่อยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยจักจั่น ซึ่งจะดูดกิน น้ำเลี้ยงและถ่ายมูลออกมาเป็นสาเหตุของโรคราดำ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีหมอกในตอนเช้า อากาศหนาวทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น สำหรับบริเวณยอดภูจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด เกษตรกรควรระมัดระวังอัคคีภัยบริเวณที่อยู่อาศัย และพื้นที่การเกษตร หลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุ สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไร่และพืชผักในระยะนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้างด้วย
ภาคกลาง
อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ เนื่องจากระยะนี้อากาศแห้ง เกษตรกรควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้งเพื่อรักษาความชื้นดิน นอกจากนี้ควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ สำหรับพืชไร่ที่อยู่ในระยะเริ่มปลูก เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคราน้ำค้าง นอกจากนี้เกษตรกรที่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง ควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อประหยัดน้ำใช้ได้เพียงพอตลอดช่วงแล้ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง สำหรับทางตอนบนของภาคซึ่งมีปริมาณฝนน้อย เกษตรกรควรสำรองและให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะพืชที่มีระบบรากสั้น ส่วนบริเวณตอนล่างของภาคซึ่งมีฝนตกและอากาศชื้น ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคหน้ากรีดยางและโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า เป็นต้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-