ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 11 มกราคม 2551 - 17 มกราคม 2551
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 11-13 ม.ค.มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ตอนบนของภาคอากาศหนาว ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ เกษตรกรควรเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตรด้วย และในช่วงวันที่ 14-17 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ผู้ขับขี่ยานพาหนะควรระวังอันตรายขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนเกษตรกรที่ปลูกมันฝรั่งควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา หากพบต้นที่เป็นโรคควรรีบถอนทำลาย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 11-13 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อากาศเย็น สำหรับบริเวณยอดภูจะมีอากาศหนาว และในช่วงวันที่ 14-17 ม.ค. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวในระยะนี้ควรหลีกเลี่ยงการตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้ ส่วนผู้ที่ปลูกมะเขือเทศควรระวังป้องกันการระบาดของแมลงจำพวกปากดูด เช่นแมลงหวี่ขาวและเพลี้ยอ่อนซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 11-14 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อากาศเย็น และในช่วง วันที่ 15-17 ม.ค. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ในช่วงนี้ผู้ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวังขณะขับขี่ยานพาหนะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา สำหรับพืชไร่ที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดเช่นเพลี้ยต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 11-14 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อากาศเย็นทางตอนบนของภาค และในช่วงวันที่ 15-17 ม.ค. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง สำหรับชาวสวนยางพาราและพืชไร่ควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยภายในบริเวณพื้นที่การเกษตร โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูกรวมทั้งอาคารบ้านเรือน อนึ่ง ในช่วงวันที่ 15-17 ม.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวประมงในอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 11-14 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค และในช่วงวันที่ 15-17 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป สำหรับบริเวณตอนบนของภาคหากไม้ผลอยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำอย่างพอเพียงเพราะการขาดน้ำจะทำให้ดอกร่วงหล่นการติดผลลดลง ส่วนทางตอนล่างของภาคซึ่งมีฝนตกและอากาศชื้น เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา โดยดูแลพื้นที่เพาะปลูกให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก อนึ่ง ในช่วงวันที่ 15-17 ม.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวประมงในอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-