พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561
ออกประกาศวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 144/61
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. – 6 ธ.ค. ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกบางในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกสำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. – 6 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกบางในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง
คำเตือน ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. – 6 ธ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วยสำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียสสำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
ผลกระทบต่อพืช/สัตว์
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง โดยมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- ระยะนี้จะมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง
- สำหรับอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้าเหมาะกับการเกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบกำจัด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่าง ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
ผลกระทบต่อพืช/สัตว์
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง โดยมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- ระยะนี้จะมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง
- สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรมาแล้วไม่ควรตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายเนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้
ภาคกลาง
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์65-75 %
ผลกระทบต่อพืช/สัตว์
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงและมีหมอกในตอนเช้าเกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังเมื่อขับรถผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรมาแล้วไม่ควรตากไว้กลางแจ้งข้ามคืนเพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้
ภาคตะวันออก
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
ผลกระทบต่อพืช/สัตว์
- เนื่องจากระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลงเกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง
- เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ
ภาคใต้
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 4 – 6 ธ.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 4 – 6 ธ.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
ผลกระทบต่อพืช/สัตว์
- ระยะนี้ทางตอนบนของภาคมีปริมาณ ฝนตกน้อยเกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ รวมทั้งกำจัดแมลงศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่าง ๆ ด้วย
- ส่วนทางตอนล่างของภาคควรระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก ซึ่งอาจทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่เพาะปลูกได้ เกษตรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวโดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกที่อยู่ในที่ลุ่ม
- ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ปริมาณฝนสะสมเดือนพฤศจิกายน (ช่วงวันที่ 1-29 พ.ย.) บริเวณประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 100 มม.สำหรับภาคใต้มีปริมาณฝนสะสม 100-600 มม. โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกของภาคมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 200-600 มม.
ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา (ช่วงวันที่ 23-29 พ.ย.) บริเวณประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 10 มม. ส่วนมากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับภาคใต้มีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 100 มม. เป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 100-150 มม.
ศักย์การคายระเหยน้ำสะสม ประเทศไทยมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสม 15-30 มม. โดยบริเวณภาคกลางและภาคใต้ตอนล่างมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสมสูงกว่าบริเวณอื่นๆ
สมดุลน้ำสะสม ประเทศไทยส่วนใหญ่มีค่าสมดุลน้ำสะสมเป็นลบ คือ (-1) – (-30) มม. เว้นแต่ในบางพื้นที่บริเวณภาคใต้ตอนกลางและตอนล่าง ที่มีค่าสมดุลน้ำสะสมเป็นบวกคือ 1-150 มม.
คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนและฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเล็กน้องบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผลและพืชผักต่างๆ ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นพืชเสียหายได้ สำหรับภาคใต้จะยังคงมีฝนต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และจัดระบบระบายน้ำบริเวณแปลงปลูกพืชให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในไม้ผล และพืชผักชนิดต่างๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74