พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 18 มกราคม 2551 - 24 มกราคม 2551

ข่าวทั่วไป Friday January 18, 2008 14:50 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า  
ระหว่างวันที่ 18 มกราคม 2551 - 24 มกราคม 2551
การคาดหมาย ในระยะนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงวันที่ 18-19 ม.ค. มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังจากนั้นอุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกหนาเพิ่มมากขึ้นในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. ทำให้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคใต้ตอนล่างและคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง หลังจากนั้นมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมตอนบนสุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.เป็นต้นไป
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ส่วนประชาชนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้า อากาศหนาวทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 11-17 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-9 องศา และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. และในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศา และมีหมอกหนาเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ในตอนเช้า ลมอ่อน 6-12 กม./ ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 18-19 ม.ค. อากาศหนาวทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศา สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ ชม. และในช่วงวันที่ 20-24 ม.ค. อุณหภูมิสูงขึ้น 2-3 องศา
และมีหมอกหนาเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ในตอนเช้า ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ ชม. และในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศา
กับมีหมอกหนาเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. อากาศอากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ ชม.
ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
และในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศา และมีหมอกในตอนเช้า
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
และในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
และในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ ชม. และในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีหมอกหนาเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ