ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 21 มกราคม 2551 - 27 มกราคม 2551
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค.มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ผู้ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวังโดยเปิดไฟหน้ารถเพื่อเป็นที่สังเกต อากาศหนาวทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรเนื่องจากฝนที่ตกในระยะนี้ด้วย สำหรับพืชไร่และไม้ดอกควรป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้าง ซึ่งจะทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโตและตาย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-23 ม.ค.มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อากาศเย็น สำหรับบริเวณยอดภูจะมีอากาศหนาว และในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. มีลมแรง กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศหนาวทางตอนบนของภาค ทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น ผู้ที่ใช้รถ ใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวังขณะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา มะขามหวานที่อยู่ในระยะฝักแก่ใกล้เก็บเกี่ยวควรระวังและป้องกันการระบาดของเชื้อรา จะทำให้ฝักเสียหายได้
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ผู้ขับขี่ยานพาหนะควรเพิ่มความระมัดระวัง อากาศเย็น และในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค.มีลมแรง กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส แม้จะมีฝนในระยะนี้แต่ปริมาณน้อย ดังนั้นเกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่มะม่วงที่กำลังออกดอกและติดผลอ่อนอย่างเพียงพอ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยจั๊กจั่น ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงและถ่ายมูลก่อเกิดโรคราดำด้วย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 21-23 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้า และอากาศเย็น และในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค. มีลมแรง กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ผู้ที่สัญจรบนท้องถนนควรใช้ความระมัดระวังขณะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวแล้วไม่ควรตาก ไว้กลางแจ้งเพราะจะเสียหายเนื่องจากฝนที่ตกได้ สำหรับไม้ยืนต้นที่ยังเล็ก ชาวสวนควรดูแลให้น้ำและทำร่มเงาพรางแสงแดดจ้า รวมทั้งนำวัสดุเหลือใช้ ทางการเกษตรคลุมโคนต้นเพื่อสงวนความชื้นในดิน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ผลผลิตกาแฟที่เก็บเกี่ยวแล้วเกษตรกรไม่ควรตาก ทิ้งไว้กลางแจ้งเพราะอาจจะเสียหายเนื่องจากฝนที่ตกได้ สำหรับไม้ผลบริเวณตอนล่างของภาค ชาวสวน ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสีชมพูในลองกอง และโรคราใบติดในทุเรียน เป็นต้น อนึ่ง ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง อาจส่งผลเสียหายต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่ง ส่วนชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-