พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 - 20 กุมภาพันธ์ 2562

ข่าวทั่วไป Thursday February 14, 2019 13:56 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 - 20 กุมภาพันธ์ 2562

การคาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 62 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 62 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 62 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกและมีหมอกหนาไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 62 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และควรอยู่ห่างจากป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง และต้นไม้ใหญ่ สำหรับเกษตรกรควรระมัดระวัง และป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 62 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ในขณะที่มีลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 62 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่มาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคเหนือจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านเข้ามา ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง และลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 14 – 15 ก.พ. 62 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 15-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 62 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-14 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 62 มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในวันที่ 16 - 20 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ในระยะแรก

หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 62 มีหมอกในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ในระยะแรก

หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 62 มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ในระยะแรก

หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 62 มีหมอกในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ออกประกาศ 14 กุมภาพันธ์ 2562

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ