พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 28 มกราคม 2551 - 03 กุมภาพันธ์ 2551

ข่าวทั่วไป Monday January 28, 2008 14:35 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ 
ระหว่าง 28 มกราคม 2551 - 03 กุมภาพันธ์ 2551
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค.มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย อากาศเย็น เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งเพราะอาจเปียกชื้นสียหายได้สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส หลังจากนั้น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส ผู้ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวังขณะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา โดยเปิดไฟหน้ารถเพื่อเป็นที่สังเกต สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ดอกควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้าง สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน เกษตรกรควรดูแลอย่าให้ขาดน้ำมิเช่นนั้นดอกและผลอ่อนจะร่วงหล่น การติดผลลดลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนบนของภาคเกือบตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค.มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็น สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว และในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส หลังจากนั้น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการตากทิ้งไว้กลางแจ้งเพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย เนื่องจากฝนที่ตก ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ปีกควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน ทำให้สัตว์อ่อนแอ และติดเชื้อโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้ากับมีฝนบางแห่ง และอากาศเย็น และในช่วง วันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ.อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย หลังจากนั้น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส ในช่วงที่มีหมอกลงจัดทำให้ทัศนวิสัยลดลงดังนั้นจึงควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะยานพาหนะที่ใช้ในการเกษตรซึ่งมีความเร็วต่ำ หากวิ่งบนถนนหลวงควรดูแลไฟหน้าและไฟท้ายให้ใช้งานได้ดี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากในระยะนี้มีปริมาณฝนน้อย เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างประหยัด
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. มีหมอกบางในตอนเช้าและมีฝนบางแห่ง และในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย หลังจากนั้น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับเงาะ ทุเรียนที่อยู่ในระยะออกดอก และมะม่วงที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรให้น้ำอย่างเพียงพอเพราะหากขาดน้ำในระยะนี้จะทำให้ดอกร่วงหล่นและผลชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ รวมทั้งควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชทรุดโทรม
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆตลอดช่วง อย่างไรก็ดี ปริมาณฝนจะลดลง เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงฤดูแล้ง สำหรับมังคุดและทุเรียนที่อยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรให้น้ำอย่างเพียงพอเพราะหากขาดน้ำในระยะออกดอกจะทำให้การติดผลลดลง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง จึงควรเฝ้าระวังผลกระทบต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่ง ส่วนชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ