ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 15 กุมภาพันธ์ 2551 - 21 กุมภาพันธ์ 2551
ภาคเหนือ
มีหมอกในตอนเช้า และอากาศเย็น สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว โดยจะมีฝนบางแห่งเกือบตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ.และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายจากฝนที่ตก ส่วนไม้ดอกไม้ประดับควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดชนิดต่างๆ รวมทั้งควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศหนาว สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกือบตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 18-21 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง และมีลมแรง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรเนื่องจากฝน ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอุณหภูมิและสภาพน้ำไม่ให้เปลี่ยนแปลงเร็วจนเกินไป เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเกิดโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
มีหมอกในตอนเช้ากับมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆตลอดช่วง อากาศเย็น ในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ.อุณหภูมิจะลดลง เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลอุณหภูมิในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพราะอาจทำให้สัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันจะอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
ภาคตะวันออก
มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่งตลอดช่วง อากาศเย็นทางตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง และมีลมแรง เนื่องจากน้ำระเหยมากในระยะนี้ เกษตรกรจึงอาจจำเป็นต้องให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชโดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะต้นอ่อน และควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นดิน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ โดยในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาค บริเวณที่มีฝนตกน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างพอเพียง โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก หากเห็นดอกชัดเจนแล้วจึงควรให้น้ำโดยเริ่มจากปริมาณที่น้อยแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด อนึ่ง ในระยะนี้ขอให้ชาวประมงในอ่าวไทยระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-