พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 20 กุมภาพันธ์ 2551 - 26 กุมภาพันธ์ 2551

ข่าวทั่วไป Wednesday February 20, 2008 15:38 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ 
ระหว่าง 20 กุมภาพันธ์ 2551 - 26 กุมภาพันธ์ 2551
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 20-21 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อากาศหนาวทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ในช่วงวันที่ 22-26 ก.พ.อุณหภูมิ จะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ส่วนไม้ผลที่กำลังติดผลอ่อน ชาวสวนควรดูแล ให้น้ำอย่างเพียงพอ รวมทั้งระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 20-21 ก.พ. อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส และมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว ในช่วงวันที่ 22-26 ก.พ.มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อากาศหนาวทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็นกับ มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากระยะนี้มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอากาศ ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือน หากสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่าย ส่วนผู้ที่จุดไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกายควรดับให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัยโดยเฉพาะบริเวณที่มีลมแรง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 20-21 ก.พ.มีหมอกบางในตอนเช้า อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ในช่วงวันที่ 22-26 ก.พ.อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อย ดังนั้นเกษตรกรจึงควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชโดยเฉพาะผัก พืชไร่ และไม้ดอกที่กำลังเจริญเติบโต ส่วนผู้ที่ปลูกกล้วยไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ดอกแคระแกร็น
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 20-21 ก.พ. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ส่วนในช่วงวันที่ 22-26 ก.พ.อุณหภูมิ จะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย เนื่องจากระยะนี้อุณหภูมิของอากาศเปลี่ยนแปลง สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรควบคุมอุณหภูมิของน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะจะทำให้สัตว์เครียด อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่าย ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะ ผลอ่อน ชาวสวนควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโตและร่วงหล่น
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 20-22 ก.พ.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และในช่วงวันที่ 23-26 ก.พ.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึง เป็นแห่งๆตลอดช่วง เกษตรกรในบริเวณดังกล่าวควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ในระยะต่อไปด้วย ส่วนบริเวณตอนบนของภาค ซึ่งมีฝนตกน้อยควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่และผักที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอรวมทั้งมะม่วงที่อยู่ในระยะผลอ่อน อนึ่ง ในช่วงวันที่ 20-21 และ 23-25 ก.พ. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ