พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 3 ตุลาคม พ.ศ. 2562
ออกประกาศวันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2562
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 116/62
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 27 - 29 ก.ย. 62 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกจะมีฝนบางแห่ง โดยจะมีอากาศเย็นในตอนเช้า ในตอนบนของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 3 ต.ค. 62 บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
คำเตือน ในช่วงวันที่ 27 -29 ก.ย. 62 บริเวณภาคใต้ จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับทางตอนบนของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 27 - 29 ก.ย. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 3 ต.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- ในระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย เนื่องจากฤดูต่อไปจะเป็นฤดูหนาวปริมาณและการกระจายของฝนจะมีน้อย เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 27 - 29 ก.ย. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 3 ต.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูหนาว เกษตรกรควรจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับกันหนาวเอาไว้ให้พร้อมและจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับให้ความอบอุ่นในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาหากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรไม่ควรนำเครื่องจักกลขนาดหนักเข้าไปในพื้นที่การเกษตร เพราะอาจติดหล่มเนื่องจากน้ำในดินยังคงมีมาก และอาจกระทบกระเทือนต่อระบบรากพืชได้
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 27 - 29 ก.ย. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 3 ต.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย เนื่องจากในช่วงฤดูฝน แมลงและศัตรูสัตว์ต่างๆ เช่น ยุง เหลือบ ริ้น ไร จะเจริญเติบโตได้ดี เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ศัตรูสัตว์มารบกวนสัตว์เลี้ยง เพราะอาจเป็นพาหะนำโรคมาสู่สัตว์เลี้ยงได้
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีฝนตกชุก วัชพืชต่างๆจะเจริญเติบโตได้ดี เกษตรกรควรกำจัดวัชพืช เพื่อไม่ให้แย่งน้ำและธาตุอาหารจากพืชที่ปลูก และไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช สำหรับฝนที่ตกไม่สม่ำเสมอในระยะนี้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 27 - 29 ก.ย. 62 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
- เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝนของทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งจะมีฝนตกชุกกับฝนตกหนักได้บางพื้นที่ โดยเริ่มจากทางตอนบนของภาคก่อน เกษตรกรจึงควรขุดลอกคูคลองและทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน น้ำไหลได้สะดวก เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เพาะปลูกและที่อยู่อาศัย ส่วนทางฝั่งตะวันตกฝนที่ตกทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในพืชสวน เช่น โรคใบยางร่วงลูกยางเน่า โรคราสนิมในกาแฟ เป็นต้น อนึ่ง บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรระมัดระวังการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
ระหว่างวันที่ 20 - 26 กันยายน 2562 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางในระยะต้นช่วง จากนั้นร่องมรสุมได้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้ในระยะกลางช่วง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยตอนบนในระยะต้นและกลางช่วง อนึ่งบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในระยะกลางและปลายช่วง กับมีลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ในระยะปลายช่วง ลักษณะดังกล่าวทำให้ประเทศไทยตอนบน มีฝนตกชุกหนาแน่นในระยะครึ่งแรกของช่วงจากนั้นมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้มีฝนตลอดช่วงส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาค
ภาคเหนือ มีฝนร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ในระยะต้นช่วง จากนั้นฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าร้อยละ 45 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งในระยะครึ่งแรกของช่วง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนร้อยละ 90 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งในวันแรกของช่วง จากนั้นมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าร้อยละ 55 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยมีรายงานน้ำท่วมต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และร้อยเอ็ด ภาคกลาง มีฝนมากกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของช่วง กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง จากนั้นฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าร้อยละ 20 ของพื้นที่ โดยมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบริเวณจังหวัดราชบุรีในวันที่ 22 และ 23 ก.ย. ภาคตะวันออก มีฝนมากกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของช่วง กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง จากนั้นฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าร้อยละ 30 ของพื้นที่ โดยมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบริเวณจังหวัดปราจีนบุรีในวันที่ 22 ถึง 26 ก.ย. และบริเวณจังหวัดสระแก้วในวันที่ 25 ถึง 26 ก.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนร้อยละ 60-85 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนน้อยกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 22 และ 24 ก.ย. มีฝนร้อยละ 60-75 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง
ช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดสุโขทัย อุบลราชธานี ราชบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง และสุราษฎร์ธานี ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เลย ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี นครปฐม สมุทรปราการ นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ตราด ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และระนอง
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา