พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 - 12 กุมภาพันธ์ 2563
การคาดหมาย
การคาดหมายลักษณะ ในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.พ. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า กับมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือตอนบน หลังจากนั้นจะมีอากาศหนาวเย็นลง บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 3-6 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณภาคกลาง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 9 - 12 ก.พ. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งไว้ด้วย รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ. 63 คลื่นอากาศในกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนเคลื่อนผ่านภาคเหนือเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกและภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. 63 จะมีคลื่นอากาศในกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.พ. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยมีลูกเห็บตกบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ก.พ. 63 จะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.พ. 63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 12-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-10 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9-10 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งทางตอนบนของภาค
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ก.พ. 63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 9-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.พ. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากทางตอนบนของภาค
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ก.พ. 63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.พ. 63 มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ก.พ. 63 มีอากาศเย็นในตอนเช้าและมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.พ. 63 มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 9-10 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ก.พ. 63 มีอากาศเย็นในตอนเช้าและมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.พ. 63 มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.พ. 63 มีหมอกในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 12 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ก.พ. 63 มีอากาศเย็นในตอนเช้าและมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ออกประกาศ 6 กุมภาพันธ์ 2563
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา