พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 5 - 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563
ออกประกาศวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 16/63
การคาดหมายลักษณะอากาศในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ.63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า กับมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ.63 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-14 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
คำเตือนในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีคลื่นลมแรง โดยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 5-8 ก.พ.63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ.63 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 11-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-10 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยน แปลง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนในขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย จากสภาวะอากาศที่มีหมอกและน้ำค้างในตอนเช้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชผัก เช่น โรคราน้ำค้าง โรคใบไหม้ เป็นต้น เกษตรกรควรหมั่นสำรวจหากพบการระบาดควรรีบป้องกัน โดยเก็บใบหรือส่วนที่เป็นโรคไปเผาทิ้งหรือทำลาย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ.63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ.63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ปีก ควรทำแผงกำบังลม เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ ส่วนในตอนกลางวันจะมีอากาศร้อนและมีลมแรง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยงดการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางเกษตร แต่ควรใช้วิธีการไถกลบแทน
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 5-8 ก.พ.63 มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ.63 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ในช่วงวันที่ 5- 8 ก.พ. อากาศเย็นกันมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจร โดยเฉพาะขณะที่ผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายเนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้ ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. จะมีลมแรง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยงดการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร แต่ควรใช้วิธีการไถกลบแทน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ เป็นต้น
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ.63 มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ.63 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- ในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ. อากาศเย็นกับมีลมแรง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และไม้ผลไว้ด้วย ส่วนในตอนกลางวันอากาศร้อนและแห้ง ทำให้ปริมาณการระเหยของน้ำบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาคลุมบริเวณแปลงปลูกหรือโคนต้นพืช เพื่อชะลอการระเหยของน้ำ รวมทั้งควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย เนื่องจากอากาศที่แห้งและมีลมแรง
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ.63 มีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ.63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. 63 มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ.63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- อากาศแห้งและมีฝนตกบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยเฉพาะชาวสวนยาง โดยทำแนวป้องกันไฟรอบบริเวณพื้นที่การเกษตร และอาคารบ้านเรือน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ในพืชไร่และไม้ผลไว้ด้วย อนึ่ง บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ 2563 ช่วงที่ผ่านมาบริเวณประเทศไทยไม่มีรายงานฝนหนักมาก สำหรับบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ ตราด ชุมพร และนราธิวาส
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา