พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 - 13 กุมภาพันธ์ 2563
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.พ. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า กับมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือตอนบน หลังจากนั้นจะมีอากาศหนาวเย็นลง บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 3-6 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2 – 3 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 9 - 13 ก.พ. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งไว้ด้วย รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 7-8 ก.พ. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกและภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. 63 จะมีคลื่นอากาศในกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยมีลูกเห็บตกบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ในระยะแรก หลังจากนั้น จะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.พ. 63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 13-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-10 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งทางตอนบนของภาค
อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 10-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.พ. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากทางตอนบนของภาค
อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.พ. 63 มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส มีอากาศเย็นในตอนเช้าและมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.พ. 63 มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส มีอากาศเย็นในตอนเช้าและมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 9-10 ก.พ. 63 มีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.พ. 63 มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.พ. 63 มีหมอกในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 13 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง กับมีอากาศเย็นในตอนเช้าและมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ออกประกาศ 7 กุมภาพันธ์ 2563
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา