พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 6 - 12 เมษายน พ.ศ. 2563
ออกประกาศวันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2563
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 42/63
การคาดหมายลักษณะอากาศ บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยในวันที่ 12 เม. ย. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
คำเตือน ในช่วงวันที่ 9 - 10 เม.ย. และวันที่ 12 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งขณะฝนฟ้าคะนอง และไม่ควรเข้าใกล้ สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาสูงๆ ขณะลมแรง
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัดตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-43 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 45-55 %
- เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนเกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพ โดยดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ สำหรับสภาพอากาศที่แห้งในระยะนี้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยและไฟป่า โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตรและอาคารบ้านเรือน รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นพืชทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนโดยทั่วไป ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 7 - 11 เม.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนในวันที่ 12 เม.ย. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 55-65 %
- ในช่วงวันที่ 7-12 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ผลผลิตทางการเกษตรที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวไม่ควรปล่อยไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง และปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งขณะฟ้าคะนอง สำหรับระยะนี้น้ำระเหยมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณหน้าดิน รักษาความชื้นภายในดิน และรักษาอุณหภูมิดิน
ภาคกลาง
อากาศร้อนถึงร้อนจัดตลอดช่วง ในวันที่ 12 เม.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนในระยะนี้ เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ โดยดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกทั้งในแนวนอนและแนวดิ่ง หรืออาจฉีดน้ำบริเวณหลังคา หรือฉีดน้ำเป็นฝอยบริเวณโรงเรือน สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลจำนวนสัตว์น้ำให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ หากปริมาณน้ำมีน้อยจะทำให้สัตว์น้ำอยู่อย่างแออัด ส่งผลให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง ตลอดช่วง โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- ในช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยสำรวจวัสดุและอุปกรณ์ที่ผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน โดยเฉพาะหนอนเจาะผลในทุเรียน ซึ่งจะทำให้ผลเสียหายและด้อยคุณภาพ
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออก อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
ฝั่งตะวันตก อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- สำหรับสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตร รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจุดไฟ หากมีความจำเป็นต้องจุดไฟควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน เพื่อป้องกันไฟลุกลามจนกลายเป็นอัคคีภัย ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงควรดูแลสภาพน้ำให้เหมาะสมกับสัตว์น้ำที่เลี้ยง รวมทั้งดูแลจำนวนสัตว์น้ำที่มีอยู่ให้สมดุลกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ หากปริมาณน้ำมีน้อยจะทำให้สัตว์น้ำอยู่อย่างแออัด สงผลให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 5 เมษายน 2563 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไปตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนาม ลาว และทะเลจีนใต้ในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ กับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนเกือบตลอดสัปดาห์ ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนส่วนมากในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีอากาศร้อน เกือบทั่วไป และมีฝนส่วนมากในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์
ภาคเหนือ มีอากาศร้อนทั่วไปตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 5 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางพื้นที่ทางตอนล่างของภาคในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ในวันที่ 3 เม.ย.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศร้อนทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นอุณหภูมิลดลงแต่ยังคงมีอากาศร้อนทั่วไป โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ทางตอนล่างของภาคในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นมีฝนร้อยละ 20-50 ของพื้นที่กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดเลย สกลนคร ขอนแก่น และศรีสะเกษในวันที่ 1 เม.ย. บริเวณจังหวัดมุกดาหารและนครราชสีมาในวันที่ 2 เม.ย. บริเวณจังหวัดชัยภูมิในวันที่ 3 เม.ย. บริเวณจังหวัดหนองคายและขอนแก่นในวันที่ 4 เม.ย. และบริเวณจังหวัดเลยในวันที่ 5 เม.ย. ภาคกลาง มีอากาศร้อนทั่วไปตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ในวันที่ 1 เม.ย. และมีฝนกับฝนหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในระยะปลายสัปดาห์ และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดนครสวรรค์และลพบุรีในวันที่ 3 เม.ย. ภาคตะวันออก มีอากาศร้อนทั่วไปทางตอนบนของภาคตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณจังหวัดปราจีนบุรีในวันที่ 1, 3 และ 5 เม.ย. โดยมีฝนร้อยละ 5-30 ของพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ กับมีฝนหนักบางแห่ง และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดปราจีนบุรีและตราดในวันที่ 2 เม.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางบางแห่งในวันที่ 30 มี.ค., 3 และ 4 เม.ย. และมีฝนกับฝนหนักบางแห่งในวันที่ 2 และ 5 เม.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศร้อนทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนร้อยละ 10-50 ของพื้นที่ในระยะกลางและปลายสัปดาห์ กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะกลางสัปดาห์
สัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ ยโสธร และลพบุรี ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ นครสวรรค์ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ยะลา นราธิวาส และสตูล
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา