พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 10 - 16 เมษายน พ.ศ. 2563

ข่าวทั่วไป Friday April 10, 2020 13:47 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 10 - 16 เมษายน พ.ศ. 2563

ออกประกาศวันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 44/63

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 10-11 เม.ย. บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งตลอดช่วง

คำเตือน ในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง เกษตรกรควรป้องกันอันตรายและระวังความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 10-11 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 45-55 %

  • ระยะนี้จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชสวนและพืชผัก เป็นต้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 10-11 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • ในช่วงนี้จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชสวนและพืชผัก เป็นต้น รวมทั้งไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กลางแจ้งขณะมีฝนฟ้าคะนองเพราะอาจถูกฟ้าผ่าได้

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 10-11 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • ระยะนี้จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดและมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชสวนและพืชผัก เป็นต้น รวมทั้งไม่ควรตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 10-11 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ส่วนในวันที่ 12-14 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ในช่วงนี้จะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรผูกยึดค้ำยันกิ่งไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนเจาะผลในทุเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการระเหยของน้ำ

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออก อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร โดยในช่วงวันที่ 13-16 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

ฝั่งตะวันตก อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 13-16 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งตลอดช่วง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชสวนและพืชผัก เป็นต้น รวมทั้งควรระวังศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ นอกจากนี้ควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 3 - 9 เมษายน 2563 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนตลอดช่วง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนอบอ้าวตลอดช่วง กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคกลาง อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาว เวียดนามและทะเลจีนใต้ในระยะครึ่งแรกของช่วง กับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนตลอดช่วง ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนบางพื้นที่ตลอดช่วง และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปตลอดช่วงและมีฝนส่วนมากตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป

ภาคเหนือ มีอากาศร้อนทั่วไปตลอดช่วง กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ในวันที่ 4 เม.ย. และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ในวันที่ 3 เม.ย.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นอุณหภูมิลดลง แต่ยังคงมีอากาศร้อนทางตอนล่างของภาค โดยมีฝนร้อยละ 15-35 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งตลอดช่วงและมีฝนหนักมากบางแห่งในวันแรกของช่วง และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดชัยภูมิในวันที่ 3 เม.ย. บริเวณจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 4 และ 6 เม.ย. บริเวณจังหวัดสุรินทร์ในวันที่5 และเลยในวันที่ 5 และ 7 เม.ย. บริเวณจังหวัดศรีษะเกษในวันที่ 7 เม.ย. และบริเวณจังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 8 เม.ย.

ภาคกลางมีอากาศร้อนทั่วไปตลอดช่วง กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 10-15 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง กับฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งในวันที่ 4-5 เม.ย. และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดลพบุรีในวันที่ 3 เม.ย. และนครสวรรค์ในวันที่ 3 และ 5 เม.ย.

ภาคตะวันออก มีอากาศร้อนทั่วไปทางตอนบนของภาคตลอดช่วง กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณจังหวัดปราจีนบุรีในวันที่ 3 และ 5 เม.ย. โดยมีฝนร้อยละ 5-40 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง กับมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 3 และ 5 เม.ย. และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดปราจีนบุรีในวันที่ 5 เม.ย. และบริเวณจังหวัดชลบุรีในวันที่ 9 เม.ย.

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปเกือบตลอดช่วง โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดยะลาในวันที่ 5 เม.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปเกือบตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 25-50 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 5 เม.ย. มีฝนร้อยละ 75 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 7 และ 8 เม.ย. และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดระนองในวันที่ 9 เม.ย.

ช่วงนี้มีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิและลพบุรี ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ สุโขทัย กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ หนองคาย นครพนม มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ นครสวรรค์ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ยะลา ระนอง และตรัง

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ