พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 22 - 28 เมษายน พ.ศ.2563
ออกประกาศวันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ.2563
การคาดหมายลักษณะ ในช่วงวันที่ 22-26 เม.ย.63 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่า และลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนคลายความร้อนอบอ้าวลง ส่วนช่วงในวันที่ 27-28 เม.ย.63 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 25-28 เม.ย.63 มีลมกระโชกแรงบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
คำเตือน ใช่วงวันที่ 22-26 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าและลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 เม.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-23 เม.ย.63 อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของบางพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-43 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 เม.ย.63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ต่อจากนั้นฝนลดลง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ในช่วงวันที่ 24-26 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้ ส่วนเกษตรกรที่ปลูกมะเขือเทศ ควรระวังการระบาดของโรคทางใบ เช่น โรคใบด่าง โรคใบหงิกเหลือง และโรคใบเหี่ยวลาย เป็นต้น สำหรับสภาพอากาศที่ร้อนจัดในตอนกลางวัน เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือน โดยดูแลโรงเรือนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก และจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-25 เม.ย.63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย.63 อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- ในช่วงวันที่ 22-25 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จากสภาวะดังกล่าว และหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้ ส่วนสัตว์เลี้ยง เช่น โค และกระบือ เป็นต้น ไม่ควรปล่อยให้อยู่ในที่โลงแจ้งในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง เพราะสัตว์เลี้ยงอาจได้รับอันตรายจากฟ้าผ่าได้ นอกจากนี้บริเวณที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงที่มีฝนน้อย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ ไว้ด้วย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 22-23 เม.ย.63 อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-43 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-28 เม.ย.63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- มีในช่วงวันที่ 24-28 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวโดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงนอกจากนี้เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และไม้ผล
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 23-25 เม.ย.63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย.63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- ในช่วงวันที่ 23-25 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยตรวจสอบสภาพวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ผูกยึดกิ่งและค้ำยันลำต้นของไม้ผลให้อยู่ในสภาพมั่นคงและแข็งแรง เพื่อป้องความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลจำนวนสัตว์น้ำให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ อย่าให้สัตว์น้ำอยู่อย่างแออัด เพราะจะทำสัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 22-24 เม.ย.63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 เม.ย.63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 22-24 เม.ย.63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 เม.ย.63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- ในช่วงนี้อากาศร้อนกับมีฝนบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้ ปริมาณยังไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ให้เหมาะสม เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงฝนน้อย โดยให้น้ำพืชอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืช เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน อนึ่ง ในช่วงวันที่ 25-28 เม.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ระหว่างวันที่ 15-21 เมษายน 2563 มีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดชุมพร ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ ลำปาง อุดรธานี มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ลพบุรี ปทุมธานี นครนายก สระแก้ว ชลบุรี ระยอง ตราด ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา