พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 13 - 19 กรกฎาคม พ.ศ.2563

ข่าวทั่วไป Monday July 13, 2020 15:35 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 13 - 19 กรกฎาคม พ.ศ.2563

ออกประกาศวันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2563

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 84/63

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 14-17 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 16-17 ก.ค. 63

ส่วนในช่วงวันที่ 18-19 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง คำเตือน ในวันที่ 13-17 ก.ค. เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 14-17 ก.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16-17 ก.ค.ส่วนในช่วงวันที่ 18- 19 ก.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ระยะนี้ฝนตกไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ ไว้ด้วย สำหรับชาวสวนผลไม้ที่อยู่ในระยะผลแก่ ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกผีเสื้อมวนหวานและแมลงวันผลไม้ ซึ่งจะดูดกินน้ำหวานจากผล ทำให้ผลเน่าเสีย ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ รวมทั้งควรกำจัดผลที่ร่วงหล่นเน่าเสียภายในบริเวณสวน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 14-17 ก.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16-17 ก.ค.ส่วนในช่วงวันที่ 18-19 ก.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ในระยะนี้มีฝนตกไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ ไว้ด้วย โดยเฉพาะหนอนกระทู้ลายจุดในข้าวโพด สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ ควรสำรวจ ปรับปรุงซ่อมแช่มโรงเรือน เลี้ยงสัตว์ให้สามารถกันฝนและลมได้ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงเลี้ยงเจ็บป่วยได้ง่าย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 14-17 ก.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 16-17 ก.ค. ส่วนในช่วงวันที่ 18-19 ก.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • ระยะนี้ฝนตกไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ โดยเฉพาะหนอนกออ้อยในอ้อย ศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช เช่น ใบอ่อนและยอดอ่อน ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลซ่อมแช่มโรงเรือนหรือคอกสัตว์ ให้หลังคาสามารถป้องกันฝน ลม ละอ่องฝนได้เป็นอย่างดี เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงไม่เจ็บป่วยได้ง่าย

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 14-17 ก.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 18-19 ก.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

  • ในช่วงวันที่ 13-16 ก.ค. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยได้ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยดูแลระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังพื้นที่เพาะปลูก เมื่อมีฝนตกหนัก และจากสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่เหมาะต่อการแพร่ระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล เกษตรกรควรดูแลพื้นที่เพาะปลูกให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก และแสงแดดส่องได้ทั่วถึง

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 14-19 ก.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % - มีฝนและฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยดูแลระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูก เมื่อมีฝนตกหนัก นอกจากนี้ควรระวังและป้องกัน โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากขาว โรคราสีชมพูในยางพารา โรคราสนิมในกาแฟ เป็นต้น

ลักษณะอากาศในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 6-12 กรกฎาคม 2563 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังอ่อนเกือบตลอดสัปดาห์ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ กับมีลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ในระยะกลางสัปดาห์ โดยในวันสุดท้ายของสัปดาห์มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ลักษณะดังกล่าวทำให้ประเทศไทยตอนบนมีปริมาณและการกระจายของฝนไม่สม่ำเสมอ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนาแน่นตลอดสัปดาห์

ภาคเหนือ มีฝนร้อยละ 15-40 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 7 และ 12 ก.ค. มีฝนมากกว่าร้อยละ 90 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งตลอดสัปดาห์ โดยมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบริเวณจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ในวันที่ 7 ก.ค. บริเวณจังหวัดลำปางในวันที่ 8 ก.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนร้อยละ 5-55 ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะต้นและปลายสัปดาห์ โดยมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดอุดรธานีในวันที่ 10 ก.ค. ภาคกลาง มีฝนร้อยละ 15-55 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดชัยนาทในวันที่ 6 ก.ค. ภาคตะวันออก มีฝนร้อยละ 10-45 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 7 และ 12 ก.ค. มีฝนมากกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดสัปดาห์ และมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันและลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดชลบุรีในวันที่ 7 ก.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนมากกว่าร้อยละ 65 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง เว้นแต่ในวันที่ 6, 7 และ 10 ก.ค. มีฝนร้อยละ 35-60 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนมากกว่าร้อยละ 75 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดกระบี่ในวันที่ 6 ก.ค.

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ปัตตานี และนราธิวาส สำหรับจังหวัดที่มีรายงานฝนตกหนัก ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี สกลนคร มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรปราการ สระแก้ว ชลบุรี ระยอง ตราด ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี พัทลุง สงขลา ยะลา ระนอง ภูเก็ต กระบี่ และตรัง

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ