พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 2 - 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ข่าวทั่วไป Wednesday December 2, 2020 14:24 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 2 - 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ออกประกาศวันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 145/63

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มีลมตะวันตกพัดพาความหนาวเย็นจากประเทศเมียนมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 7-8 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ประกอบกับในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซียจะเคลื่อนเข้าสู่ทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-8 ธ.ค. ภาคใต้จะมีฝนลดลง และคลื่นลมมีกำลังอ่อนลง

คำเตือน ในช่วงนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนภาคใต้ในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และระวังน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร สำหรับในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กงดออกจากฝั่ง

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 2-3 และ 7-8 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ระยะนี้จะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง เกษตรกรควรระวังและป้องกันเพลี้ยอ่อนในพืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 2-3 และ 7-8 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง เกษตรกรควรทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์เลี้ยงเพื่อไม่ให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 2-3 และ 7-8 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีลมแรง ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ระยะนี้จะมีอากาศเย็นและมีลมแรง ในช่วงที่มีอากาศเย็นสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยเกษตรกรควรให้ปริมาณอาหาร แก่สัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ควรระวังหนอนชอนใบระยะแตกใบอ่อนในส้มโอ

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 2-3 และ 7-8 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีลมแรง ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็นและมีลมแรง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคราน้ำค้างในองุ่น นอกจากนี้ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการระเหยของน้ำ

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-8 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

  • ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วงกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกัน ความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร รวมทั้งควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก นอกจากนี้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2563 บริเวณภาคใต้มีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และตรัง ส่วนจังหวัดที่มีฝนตกหนักได้แก่ ชุมพร ยะลา และสตูล ปริมาณฝนสูงสุด วัดได้ 276.4 มิลลิเมตร ที่อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ