พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 23 - 29 เมษายน พ.ศ. 2564
ออกประกาศวันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 49/64
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 23 - 25 เม.ย. 64 บริเวณประเทศไทยมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันกับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝน ฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเนื่องจากความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน และมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันและอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย. 64 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามัน อ่าวไทย และภาคใต้ มีลมตะวันตกพัดปกคลุม ตลอดช่วง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
คำเตือน สำหรับในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย. 64 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งขณะฟ้าคะนอง และ ไม่ควรเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้าง ที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาสูงๆ ขณะลมแรง
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 23 - 25 เม.ย. 64 อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 50-70 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม.
- ในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาสูงๆ ขณะลมแรง รวมทั้งผูกยึดและค้ำยันกิ่งของไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง นอกจากนี้เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ พืชสวน และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช เช่น ใบอ่อน และยอดอ่อน ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 23 - 24 เม.ย. 64 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 25 - 29 เม.ย. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 50-70 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม.
- ในช่วงวันที่ 25-29 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งขณะมีฝนฟ้าคะนองและหลีกเลี่ยงเข้าใกล้ สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาสูงๆขณะลมแรง ระยะนี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณและการกระจายยังไม่เพียงพอ เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างประหยัดและวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง ส่วนเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ควรรอให้มีฝนตกสม่ำเสมอแล้วค่อยลงมือปลูกพืชเพื่อป้องกันพืชขาดน้ำในระยะเจริญเติบโต
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 23 - 25 เม.ย. 64 อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 55-65 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม.
- ในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย.จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งและไม่ควรเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาสูงๆ ขณะลมแรง สำหรับพื้นที่ซึ่งฝนตกไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ พืชสวน และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช เช่น ใบอ่อน และยอดอ่อน ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำ หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อป้องกันน้ำแยกชั้น รวมทั้งไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อโดยตรง เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัว ไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 23 - 25 เม.ย. 64 อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-80 % ความยาวนานแสงแดด 4-7 ชม.
- ในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย.จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากสภาวะดังกล่าว โดยผูกยึดกิ่งและค้ำยันลำต้นของไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักและต้นโค่นล้มเมื่อมีลมแรง นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าว จะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช เช่น ใบอ่อนและยอดอ่อน ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตรความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 4 -7 ชม. ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 23 - 25 เม.ย. 64 ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย. 64 ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- สำหรับระยะนี้ฝนตกไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในไม้ผลและพืชผักซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช เช่น ใบอ่อนและยอดอ่อน ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำ หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อป้องกันน้ำแยกชั้น รวมทั้งไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อโดยตรง เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 16 - 22 เมษายน 2564 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในระยะครึ่งแรกของช่วง อนึ่งบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในวันที่ 18 เม.ย. ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนในระยะครึ่งแรกของช่วง ต่อจากนั้นมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนกับมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในระยะครึ่งหลังของช่วง ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปในวันแรกและในระยะครึ่งหลังของช่วง โดยมีฝนตกตลอดช่วง กับมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ส่วนมากบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับมีฝนหนักในหลายพื้นที่ส่วนมากในระยะครึ่งแรกของช่วงและมีฝนหนักมากในระยะต้นช่วง สำหรับภาคใต้มีฝนตลอดช่วงกับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งเกือบตลอดช่วงจากอิทธิพลของลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว และในระยะปลายช่วงมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคใต้
ภาคเหนือ มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปในวันแรกและในระยะครึ่งหลังของช่วง กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในระยะปลายช่วง โดยมีฝนมากกว่าร้อยละ 65 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะครึ่งแรกของช่วงและมีฝนหนักมากบางพื้นที่ในวันแรกของช่วง ส่วนในระยะครึ่งหลังของช่วงมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 5 ของพื้นที่ โดยมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดลำปาง พะเยา พิษณุโลก เชียงราย สุโขทัย และพิจิตรในวันที่ 16 เม.ย. บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอนในวันที่ 16-17 เม.ย. บริเวณจังหวัดลำพูนในวันที่ 16 และ 20 เม.ย. บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 16 และ 22 เม.ย. และบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ในวันที่ 18 เม.ย. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปในวันแรกและในระยะครึ่งหลังของช่วง โดยมีฝนร้อยละ 5-55 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 16 และ 18 เม.ย. มีฝนร้อยละ 75-85 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วงและมีฝนหนักมากบางพื้นที่ในระยะต้นช่วง โดยมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดบึงกาฬ หนองบัวลำภู มหาสารคาม อุดรธานี ศรีสะเกษ เลย หนองคาย และกาฬสินธุ์ในวันที่ 16 เม.ย. บริเวณจังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 16 และ 20 เม.ย. บริเวณจังหวัดร้อยเอ็ดในวันที่ 16 และ 18 เม.ย. บริเวณจังหวัดอุบลราชธานีในวันที่ 16, 18 และ 21 เม.ย. บริเวณจังหวัดสุรินทร์ในวันที่ 16, 18 และ 22 เม.ย. บริเวณจังหวัดชัยภูมิในวันที่ 17 เม.ย. บริเวณจังหวัดมุกดาหาร และอำนาจเจริญใน
วันที่ 18 เม.ย. บริเวณจังหวัดยโสธรในวันที่ 18 และ 21 เม.ย. และบริเวณจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 20 เม.ย. ภาคกลาง มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปในวันแรกและในระยะครึ่งหลังของช่วง โดยมีฝนร้อยละ 5-30 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 18 เม.ย. มีฝนร้อยละ 90 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดอ่างทองในวันที่ 18 เม.ย. บริเวณจังหวัดสมุทรสงครามในวันที่ 19 เม.ย และบริเวณจังหวัดลพบุรีในวันที่ 20 เม.ย. ภาคตะวันออก มีอากาศร้อนหลายพื้นที่ทางตอนบนของภาคเกือบตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 20-50 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 19 เม.ย. มีฝนร้อยละ 85 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 16, 18, 19 และ 22 เม.ย. และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดชลบุรีในวันที่ 16 เม.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศร้อนบางพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค โดยมีฝนร้อยละ 35-60 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งตลอดช่วง และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชในวันที่ 16 และ 20 เม.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศร้อนบางพื้นที่ในระยะต้นช่วงและวันสุดท้ายของช่วง โดยมีฝนมากกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 17 และ 21 เม.ย. มีฝนร้อยละ 25-50 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะครึ่งแรกของช่วงและมีฝนหนักมากบางพื้นที่ในวันที่ 18-19 เม.ย.
ช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดสุโขทัย เลย อุดรธานี กาฬสินธุ์ ระนอง และพังงา ส่วนจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ หนองคาย หนองบัวลำภู สกลนคร มุกดาหาร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร ราชบุรี สมุทรปราการ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ตราด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ภูเก็ต และตรัง
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา