พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 8 - 14 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ข่าวทั่วไป Wednesday December 8, 2021 15:21 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 8 - 14 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ออกประกาศวันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2564

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 148/64

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 8-13 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง / ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอุณหภูมิสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า หลังจากนั้นบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่อีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ตลอดช่วง ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

คำเตือน ระยะนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ์าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดในการเดินเรือ

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 8-13 ธ.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในวันที่ 14 ธ.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.

  • ในช่วงวันที่ 8-13 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายเนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 8-13 ธ.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. หลังจากนั้นในวันที่ 14 ธ.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.

  • ในช่วงวันที่ 8-13 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอและดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราน้ำค้างในพืชตระกลูแตงและข้าวโพด เป็นต้น สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายเนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 8-13 ธ.ค. 64 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. หลังจากนั้นในวันที่ 14 ธ.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70% ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.

  • ในช่วงวันที่ 8-13 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง จากสภาพอากาศที่เย็นและแห้งทำให้การระเหยของน้ำมีมาก เกษตรกรควรคลุมแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อชะลอการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และเป็นการรักษาอุณหภูมิดิน สำหรับเกษตรที่เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีก ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป์องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 8-13 ธ.ค. 64 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร หลังจากนั้นในวันที่ 14 ธ.ค. 64 อากาศเย็น กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม.

  • ในช่วงวันที่ 8-13 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรเฝ้าระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราน้ำค้างในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะผู้เลี้ยงปลาในกระชังและบ่อดิน ควรหมั่นเก็บเศษอาหารที่เหลือจากบ่อหรือกระชัง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค รวมทั้งควรควบคุมปริมาณการให้อาหารอย่างเหมาะสม

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 8-12 ธ.ค. 64 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ์าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค. 64 มีฝนฟ์าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนใหญ่ทางตอนล่างของภาค ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ์าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่ จ.สงขลา ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-7 ชม. ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 8-12 ธ.ค. 64 มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค. 64 มีฝนฟ์าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม.

  • ในระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนลดลง เกษตรกรควรระวังศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชสวน ไม้ผล และพืชผักต่างๆไว้ด้วย สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งถูกน้ำท่วมขังในช่วงที่ผ่านมา หากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้มาใช้ได้ดีดังเดิม โดยห้ามนำเครื่องจักรกลหนักเข้าไปในพื้นที่ และห้ามบุคคลรวมทั้งสัตว์เข้าไปเหยียบย่ำบริเวณโคนต้นพืช เพราะจะกระทบกระเทือนต่อระบบรากของพืช ทำให้ต้นพืชทรุดโทรมและอาจตายได้ รวมทั้งควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากนาโคนเน่าในไมผล

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดในการเดินเรือ

ลักษณะอากาศในรอบ 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 1-7 ธันวาคม 2564 มีฝนตกบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย โดยมีรายงานฝนหนักมากบริเวณจังหวัดรชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และนราธิวาส ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ ปัตตานี ยะลา ระนอง พังงา ตรัง และสตูล สำหรับปริมาณฝนมากที่สุด วัดได้ 274.4 มิลลิเมตร ที่อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ