พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564 - 2 มกราคม พ.ศ. 2565

ข่าวทั่วไป Monday December 27, 2021 15:14 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564 - 2 มกราคม พ.ศ. 2565

ออกประกาศวันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 156/64

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 27-29 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่/ ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 1-2 ม.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. 64 ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

คำเตือนในช่วงวันที่ 27 ธ.ค.64 - 2 ธ.ค.65 ขอให้ประชาชนบริเวณบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ขอให้เดินเรื่อด้วยความระมัดระวังในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค.

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วง 30-31 ธ.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. จากนั้นในช่วงวันที่ 1-2 ม.ค. 65 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.

  • ระยะนี้มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าในบางวัน เกษตรกรควรระวังโรคพืขที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราน้ำค้างในพืชผักตระกูลกะหล่ำและผักกาด เป็นต้น สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ปีกควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันโดยเฉพาะในสัตว์ที่อยู่ในช่วงอนุบาล

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 27-29 ธ.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. จากนั้นในช่วงวันที่ 1-2 ม.ค. 65 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 13-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม.

  • ระยะนี้มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราน้ำค้างในพืชตระกูลแตง เช่น แตงกวา แตงร้าน แตงโม แตงไทย และเมล่อน เป็นต้น จากสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรงในบางช่วง ทำให้ปริมาณการระเหยของน้ำบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชหรือโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อชะลอการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และเป็นการรักษาความชื้นในดิน

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. 64 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. จากนั้นในช่วงวันที่ 1-2 ม.ค. 65 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม.

  • ระยะนี้มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรงในบางช่วง เกษตรกรควรระวังศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผลและพืชผักต่างๆ โดยเฉพาะหนอนใยผักในพืชผักตระกูลกะหล่ำและผักกาด เป็นต้น สำหรับเกษตรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรควบคุมปริมาณการให้อาหารอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องเซลเซียส เพราะในช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำลง ทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย และเศษอาหารเหลือจะส่งผลให้น้ำเน่าเสียได้

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. 64 และ 1-2 ม.ค. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. 64 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 5-7 ชม.

  • ระยะนี้มีอากาศเย็นกับมีลมแรงในบางช่วง เกษตรกรควรระวังศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ ในพืชไร่ ไม้ผล เป็นต้น สำหรับสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรง ทำให้การระเหยของน้ำบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรคลุมแปลงปลูกพืชหรือโคนต้นพืช เพื่อชะลอการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และเป็นการรักษาความชื้นภายในดิน

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 27-29 ธ.ค. 64 และ 1-2 ม.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. 64 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-7 ชม.

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 27-29 ธ.ค. 64 และ 1-2 ม.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. 64 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม.

  • ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังศัตรูพืชจำพวกปาดดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ โดยศัตรูพืชดังกล่าวจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นพืช ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลติลดลงและด้วยคุณภาพได้ ส่วนทางตอนล่างของภาคจะยังคงมีฝนฟ้าคะนองได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในไม้ผล และพืชผักต่างๆ ไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ลักษณะอากาศในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 20-26 ธันวาคม 2564 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบนในระยะต้นสัปดาห์จากนั้นมีกำลังอ่อนลง นอกจากนี้มีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนในวันที่ 22 ธ.ค. จากนั้นได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบนในระยะปลายสัปดาห์ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออกในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นทั่วไป กับมีอากาศหนาวหลายพื้นที่ ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป โดยประเทศไทยตอนบนมีฝนในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ สำหรับภาคใต้ได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทะเลอันดามันตอนล่างในวันที่ 21 ธ.ค . โดยมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลงตลอดสัปดาห์ ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่นในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นมีปริมาณและการกระจายของฝนลดลง

ภาคเหนือ มีอากาศหนาวเกือบทั่วไปในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศหนาวหลายพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางน้อยกว่าร้อยละ 15 ของพื้นที่ในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวเกือบทั่วไปในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นมีอากาศเย็นทั่วไป โดยยังคงมีอากาศหนาวบางพื้นที่ทางตอนบนของภาคในระยะกลางสัปดาห์ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีฝนร้อยละ 5-25 ของพื้นที่กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ภาคกลาง มีอากาศเย็นทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในระยะต้นและกลางสัปดาห์ จากนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปทางตอนบนของภาค โดยมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางร้อยละ 15-30 ของพื้นที่ในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์กับมีฝนหนักบางแห่งในวันสุดท้ายของสัปดาห์ ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นเทั่วไปในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นหลายพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 30-50 ของพื้นที่ในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ กับมีฝนหนักในวันที่ 24 ธ.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาคเกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนร้อยละ 15-50 ของพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ กับมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 23 และ 25 ธ.ค. และมีรายงานน้ำท่วมต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาบริเวณจังหวัดนราธิวาส ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนร้อยละ 75 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดพังงาในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานมีฝนหนักมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ ศรีสะเกษ กาญจนบุรี ตราด สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และพังงา

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ