พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 - 24 กุมภาพันธ์ 2565
การคาดหมาย ในช่วงวันที่18 - 21 ก.พ. 65 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมา เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของ
ประเทศไทย ประกอบกับในช่วงวันที่ 19 - 24 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน โดยจะเริ่มแผ่เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ก่อนในช่วงวันที่ 19 - 21 ก.พ. 65 ส่งผลให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 22 ? 24 ก.พ. 65 อุณหภูมิจะลดลง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส กับมีอากาศหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 22 ? 24 ก.พ. 65 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณ
อ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 18 ? 21 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนในวันที่ 22 -24 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย และชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 18 ? 21 ก.พ. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 22 ? 24 ก.พ. 65 อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศเย็นถึงหนาว
อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 18 ? 19 ก.พ. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ?70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-36 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 20 ? 22 ก.พ. 65 อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 24 ก.พ. 65 มีอากาศเย็นถึงหนาว
อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 18 - 20 ก.พ. 65 มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ? 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 21 ? 22 ก.พ. 65 อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 23 ? 24 ก.พ. 65 มีอากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 18 - 20 ก.พ. 65 มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 21 ? 22 ก.พ. 65 อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนร้อยละ 10 -30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 23 ? 24 ก.พ. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 18 ? 21 ก.พ. 65 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 22 - 24 ก.พ. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ? 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 19 ? 22 ก.พ. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 24 ก.พ. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ? 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 18 - 20 ก.พ. 65 มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ? 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
หลังจากนั้นในวันที่ 21? 22 ก.พ. 65 อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 23 ? 24 ก.พ. 65 มีอากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ออกประกาศ 18 กุมภาพันธ์ 2565
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา