พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2565 - 7 เมษายน 2565
การคาดหมาย คาดหมายลักษณะ ในช่วงวันที่ 1 - 3 เม.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นกับมีลมแรง ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยจะเริ่มบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส
ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตอนบนช่วยคลายความร้อนลงได้
ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 7 เม.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส
อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณปลายแหลมญวน มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ในช่วงวันที่ 2 ? 3 เม.ย. 65 ทำให้ลมฝ่ายตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร หลังจากนั้น คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 1 ? 3 เม.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน ส่วนในช่วงวันที่ 1 - 7 เม.ย. 65 ประชาชนบริเวณภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้น ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 1 ? 2 เม.ย. 65 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง
และในช่วงวันที่ 2 ? 3 เม.ย. 65 อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 7 เม.ย. 65 อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 1 ? 3 เม.ย. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง
โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ในระยะแรก หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 16-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 7 เม.ย. 65 อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 1 ? 3 เม.ย. 65 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในระยะแรก
หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 7 เม.ย. 65 อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 1? 3 เม.ย. 65 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรงและฝนตกหนักบางแห่งในระยะแรก
หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในวันที่ 4 - 7 เม.ย. 65 อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ออกประกาศ 1 เมษายน 2565
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา