พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 6 เมษายน 2565 - 12 เมษายน 2565
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 6 - 7 เม.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น
โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่มีลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณ
อ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 12 เม.ย. 65 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 6 - 7 เม.ย. 65 ประชาชนบริเวณภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้น ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 6 - 7 เม.ย. 65 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 12 เม.ย. 65 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 6 - 8 เม.ย. 65 เมฆบางส่วน กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 12 เม.ย. 65 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ทางตอนบนของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 6 - 7 เม.ย. 65 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 12 เม.ย. 65 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก ในวันที่ 6 - 7 เม.ย. 65 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากตามแนวชายฝั่งทะเล
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 12 เม.ย. 65 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 6 ?7 เม.ย. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 8 ? 12 เม.ย. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 6 ? 7 เม.ย. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในวันที่ 8 - 12 เม.ย. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 6 - 7 เม.ย. 65 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 12 เม.ย. 65 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ออกประกาศ 6 เมษายน 2565
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา