พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 17 มีนาคม 2551 - 23 มีนาคม 2551

ข่าวทั่วไป Monday March 17, 2008 15:46 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ 
ระหว่าง 17 มีนาคม 2551 - 23 มีนาคม 2551
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในช่วงวันที่ 17-18 และ22-23 มี.ค.จะมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลูกเห็บตกและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ เกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้กับอาคารบ้านเรือนและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งควรค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง แม้ฝนจะตกแต่มีปริมาณน้อยดังนั้นจึงควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่และผักชนิดต่างๆ นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดด้วย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในช่วงวันที่ 17-18 และ22-23 มี.ค.จะมีพายุฝน ฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลูกเห็บตกและลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรจากสภาวะดังกล่าว โดยเฉพาะไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโต ทางผล ชาวสวนควรผูกโยงหรือค้ำยันกิ่งที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง สำหรับข้าวนาปรังที่กำลังแตกกอถึงตั้งท้อง ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตลดลง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 17-21 มี.ค.อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค.จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น สำหรับไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติม และคลุมโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำจากดิน รวมทั้งควรค้ำยันกิ่งที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมกระโชกแรง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 17-21 มี.ค.อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัว โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และ มีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ในช่วงวันที่ 22-23 มี.ค.จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากระยะนี้อากาศร้อน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ รวมทั้งดูแลโรงเรือนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ป้องกันไม่ให้สัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ง่าย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆตลอดช่วง ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งตลอดช่วง สำหรับไม้ผลที่กำลังออกดอกและติดผลอ่อน ชาวสวนควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติม เพื่อป้องกันผลผลิตร่วงหล่น ส่วนบริเวณทางตอนบนของภาคซึ่งมีอากาศร้อนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอย่าให้อุณหภูมิและปริมาณน้ำเปลี่ยนแปลงมาก เพราะอาจทำให้สัตว์เครียด อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ